Page 75 - b29256_Fulltext
P. 75

177
            ตราไม่ให้ปลูกกัญชาในประเทศไทยอีกจำนวนมากอีกด้วย    จึงทำให้ฝั่งที่ต่อต้านกัญชายอมยกเลิกกฎหมายห้ามปลูก
            กัญชา แล้วได้ร่างกฎหมายห้ามส่งกัญชาออกนอกประเทศตามคำร้องของรัฐบาลสิงคโปร์เท่านั้น



                 กฎเสนาบดีเรื่องกัญชาและหนังสือสัญญาว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ

                 การประชุมนานาชาติว่าด้วยเรื่องฝิ่น (International Opium Convention) ครั้งที่ 2 ที่เจนีวา ประเทศ

            สวิตเซอร์แลนด์ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2468 มีประเทศเข้าร่วมการประชุมถึง 48 ประเทศ ได้แก่ อัลบาเนีย,
            เยอรมนี, ออสเตรีย, เบลเยียม, บราซิล, อังกฤษ, แคนาดา, ออสเตรเลีย, แอฟริกาใต้, นิวซีแลนด์, ไอร์แลนด์, อินเดีย,

            บัลแกเรีย, ชิลี, คิวบา, เดนมาร์ก, สเปน, ฝรั่งเศส,กรีซ, ฮังการี, ญี่ปุ่น, ลัตเวีย, ลักเซมเบิร์ก, นิการากัว, เนเธอร์แลนด์,

            เปอร์เซีย (อิหร่าน), โปแลนด์, โปรตุเกส, ราชอาณาจักรยูโกสลาเวีย (รัฐ แห่งชาวสโลวีน โครแอต และเซิร์บ), ซูดาน,

            สวิตเซอร์แลนด์, เชโกสโลวาเกีย, อุรุกวัย, รัฐซาราวัก (รัฐของประเทศ มาเลเซียบนเกาะบอร์เนียว), อียิปต์, ซานมารี

            โน, ซัลวาดอร์ (เมืองหลวงของรัฐบาเยีย ประเทศบลาซิล), เสรีนคร ดันท์ซิช, บาฮามาส, โมนาโก, ฟินแลนด์, นิวเฮบริ

            ดีส์ (ประเทศวานูอาตู),   โรมาเนีย, สาธารณรัฐโดมินิกัน, เวเนซุเอลา, โบลิเวีย, อิตาลี และไทย
                                                                                           178
                 ประเทศที่เข้าร่วมล้วนเป็นประเทศที่มีความเกี่ยวข้องเกี่ยวกับฝิ่น ทั้งการใช้ฝิ่นในประเทศ การส่ง ออกไป
            ต่างประเทศหรือถูกส่งมาจากประเทศอื่น ซึ่งรายละเอียดการประชุมจะเป็นการร่วมมือให้ความเห็นสำหรับร่างหนังสือ

            สัญญาเพื่อควบคุมฝิ่น และยาเสพติดชนิดอื่นๆ เช่น โคเคน, มอร์ฟีน, เฮโรอีน และกัญชา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่กัญชาถูก

            เสนอให้บรรจุในข้อกฎหมายอย่างเป็นทางการ โดยจุดเริ่มต้นมาจากประเทศอียิปต์ และตุรกี ได้เสนอให้ แฮชชิช

            (Hashish)  เป็นยาเสพติด จากการที่ประเทศอียิปต์ได้เสนอกัญชาให้เป็นยาเสพติดนั้น ทำให้ประเทศต่างๆ ที่
                     179
            ต่อต้านกัญชาอยู่แล้ว ได้ร่วมเสนอด้วย เช่น แอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นประเทศแรกในโลกที่ออกกฎหมายห้ามเสพกัญชา
            ตั้งแต่ พ.ศ. 2454  ทั้งยังได้เรียกร้องให้ประเทศอื่นๆ ออกกฎหมายควบคุมกัญชาด้วย จากการเสนอดังกล่าว ทำให้
                           180
            การประชุมในครั้งนี้ มีการร่างกฎหมายในหนังสือสัญญาสำหรับควบคุมฝิ่นและยาเสพติด โดยเพิ่มกัญชาเข้าไปด้วย


                   ต่อมาหลายประเทศต่างให้ความร่วมมือปฏิบัติตามข้อตกลงโดยลงนามในหนังสือสัญญาว่าด้วย เรื่องฝิ่นและ

            ยาเสพติด แต่ก็มีบางประเทศที่ขอสงวนไว้ก่อน เช่น อินเดีย ที่ไม่เห็นด้วยกับการควบคุมกัญชา เป็นสารเสพติด เพราะ

            กัญชาในประเทศอินเดียถือว่าเป็นพืชที่มีคุณค่าหลายอย่าง ทั้งด้านการค้า การนำมา ประกอบพิธีกรรม และการนำมา
            เสพเพื่อความสุข นอกจากประเทศอินเดียแล้ว ประเทศไทยก็ได้สงวนข้อ กฎหมายเกี่ยวกับกัญชาไว้เช่นกัน






                   177  เรื่องเดียวกัน, หน้า 37.
                   178  United Nations Treaty Collection.  (2019).  International Opium Convention.  p. 319-321.  (online)

                   179  กัญชาแปรรูปแบบโบราณ ด้วยการใช้มือไปปั่นที่บริเวณดอกกัญชา เพื่อเก็บเรซิ่นบนดอกให้มารวมกัน จากนั้นจึง ใช้โลหะ
            ลนไฟขูดออกก่อนจะปั้นเป็นก้อน เป็นที่นิยมในแถบตะวันออกกลาง และยุโรป (กัญชาชน, 2561)
                   180  อัคนี มูลเมฆ, “กัญชาบนเส้นทางประวัติศาสตร์โลก,” สารคดี  34 (404 (2561): 104.

                                                            74
   70   71   72   73   74   75   76   77   78   79   80