Page 39 - b29256_Fulltext
P. 39

2.4 โครงสร้างทางการเมืองกับนโยบายการพัฒนาทางการแพทย์และสาธารณสุข
                   หากถือเอาการเปลี่ยนแปลงการปกครองของคณะราษฎรในปี พ.ศ. 2475 เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญยิ่งจุดหนึ่งของ

            การเมืองการปกครองของประเทศไทย ดังที่ยึดถือกันอยู่ของนักรัฐศาสตร์และนักประวัติศาสตร์ที่สนใจการเมืองไทย
            สมัยใหม่ จะเห็นได้ว่าความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในสังคมไทยมีจุดเริ่มต้นจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองครั้งนี้อยู่

            ไม่น้อย ดังข้อสรุปของนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ที่ได้สรุปผลลัพธ์ของการปฏิวัติสยาม 2475 เอาไว้ว่า ได้ก่อให้เกิดสถาบัน

            หลักของชาติขึ้น 4 สถาบันที่มีผลต่อการเมืองไทยในสมัยต่อมาอย่างลึกซึ้งนั่นคือ รัฐธรรมนูญ สภาผู้แทนราษฎร
            คณะรัฐมนตรี และระบบราชการแห่งชาติ
                                              88
                   แต่ก่อนที่จะไปทำความเข้าใจกับการเปลี่ยนแปลงของนโยบายสาธารณสุขของรัฐบาลประชาธิปไตยหลัง
            เปลี่ยนแปลงการปกครองนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำความเข้าใจกับสถานการณ์ทางการเมืองของคณะราษฎร ผู้ที่ทำ

            การเปลี่ยนแปลงการปกครอง เพราะเป็นที่ยอมรับกันว่านโยบายทางสังคมและเศรษฐกิจ ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

            ขึ้นในสังคมอย่างขนานใหญ่คงจะเกิดขึ้นไม่ได้ หากสถานะทางการเมืองของผู้ที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงยังไม่มั่นคง
                   เป็นความจริงที่ว่า หลังเปลี่ยนแปลงการปกครองในปีแรก คณะราษฎรแทบจะไม่ได้ดำเนินนโยบายที่ทำให้เกิด

            การเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมมากนัก ปรากฏการณ์ดังกล่าวเป็นผลมาจากการดำเนินการทางการเมืองของคณะราษฎรที่

            ภายหลังการยึดอำนาจมาได้แล้ว ต้องการจะประนีประนอมกับกลุ่มอำนาจเก่าในระบอบราชาธิปไตย เพื่อความราบรื่น
            ในการบริหารราชการของบ้านเมือง แต่การณ์กลับกลายว่าเป็นการเข้าไปสู่ความขัดแย้งกับกลุ่มอนุรักษ์นิยมของ

            คณะราษฎรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

                   หลังจากความขัดแย้งจนถึงขั้นแตกหักในกรณีการเสนอเค้าโครงการเศรษฐกิจของนายปรีดี พนมยงค์ ซึ่งส่งผล
            ให้เกิดความแตกแยกขึ้นอย่างมากในหมู่ผู้นำในระบบใหม่ เนื่องจากมีคณะผู้ก่อการบางคนที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยม เช่น

            พระยาทรงสุรเดช พระยาฤทธิ์อัคเนย์ และพันโทพระประศาสน์พิทยายุทธ ซึ่งได้หันไปร่วมมือกับกลุ่มขุนนางเก่าด้วย
            การเคลื่อนไหวต่อต้านเค้าโครงการเศรษฐกิจโดยกล่าวหาว่า “มีลักษณะเป็นคอมมิวนิสต์” และได้เริ่มคุกคามกลุ่มผู้นำ

            ในคณะราษฎรโดยพยายามดึงอำนาจมาอยู่ที่กลุ่มตัวเองด้วยการประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร งดใช้รัฐธรรมนูญบาง

            มาตรา รวมทั้งได้ปรับคณะรัฐมนตรีเพื่อเป็นการลิดรอนอำนาจของนายปรีดี พนมยงค์ และสายพลเรือนในคณะราษฎร
            และต่อมาได้บีบให้นายปรีดี พนมยงค์ต้องเดินทางออกนอกประเทศ ในขณะเดียวกันก็ได้มีการออกพระราชบัญญัติว่า

            ด้วยคอมมิวนิสม์ออกประกาศใช้
                                      89
                   แต่อย่างไรก็ตามความขัดแย้งครั้งนี้ได้ถึงจุดสิ้นสุดในวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2476  เมื่อคณะผู้ก่อการฝ่าย

            ทหารที่นำโดยพระยาพหลพลพยุหเสนาและหลวงพิบูลสงครามได้ทำรัฐประหารยึดอำนาจคืนมาสู่คณะราษฎรเป็น

            ผลสำเร็จ


                   88  นครินทร์ เมฆไตรรัตน์, การปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 (กรุงเทพฯ: อัมรินทร์วิชาการ, 2540).
                   89  สรศักดิ์ งามขจรกุลกิจ, ขบวนการเสรีไทยกับความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศไทยระหว่าง พ.ศ. 2481-2492

            (กรุงเทพฯ: สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2532), หน้า 31.
                                                            38
   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44