Page 37 - b29256_Fulltext
P. 37
อย่างรวดเร็วในสังคมไทย และ “นอกจากนี้ปัญหาเรื่องโรคระบาดยังทำให้เกิดเงื่อนไขที่การแพทย์ผูกพันกันอย่างแน่น
75
แจฟ้นกับอำนาจรัฐ เนื่องจากรัฐต้องการที่จะควบคุมสอดส่องดูแลและรักษาสุขภาพพลานามัยของพลเมือง ซึ่งหากพูด
76
ในภาษา Foucault ก็คือ ‘การแพทย์ได้กลายเป็นภารกิจหลักอันหนึ่งของชาติ‘ นั่นเอง”
77
การพัฒนาการแพทย์ไทยให้มีมาตรฐานวิชาชีพชั้นสูงทันสมัย เหมือนการแพทย์มาตรฐานนานาชาติ
แม้จะมีการขยายตัวของการผลิตแพทย์แผนใหม่จากความช่วยเหลือแล้วก็ตาม แต่ก็ปรากฏว่าในสมัยรัชกาลที่ 7 มีอัตรา
การรับเข้าเรียนและการจบของแพทย์ยังต่ำ จนยังพบว่าอัตราของแพทย์ต่อประชากรก็ยังต่ำอยู่มาก การแพทย์แผนใหม่
จึงจำกัดวงแคบมาก คือจะอยู่เฉพาะในกรุงเทพมหานครและหัวเมืองใหญ่เท่านั้น และมุ่งจัดให้แก่คนของรัฐเป็นสำคัญ
เช่น ข้าราชการ และนักโทษ ไม่ได้กระจายออกไปสู่ประชาชนทั่วไป ซึ่งปรากฏว่ายังต้องพึ่งพาอาศัยการแพทย์แผน
78
โบราณกันเป็นส่วนมาก ในรายงานของหน่วยงานสาธารณสุขเองจากหัวเมืองอย่างรายงานจากมณฑลอุบลในปลาย
79
ทศวรรษ 2460 ก็ยอมรับว่าความนิยมในการใช้ยาแผนปัจจุบัน “คงนิยมแต่ยาแก้เข้าข้อคุทราดและแก้ไข้ ส่วนยาอื่นๆ
ยังไม่ใคร่นิยมนัก เพราะราษฎรนิยมการเสกเป่าและใช้ยาแผนโบราณ แต่เวลานี้รู้สึกว่าเริ่มนิยมกันขึ้นบ้างแล้ว”
80
เช่นเดียวกับรายงานกรมสาธารณสุขในปี 2468 จากสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคามรายงานว่า “ราษฎรโดยมากยังไม่
81
นิยมใช้ยาแผนปัจจุบันสำหรับทำการบำบัดโรค”
จากการสำรวจของนักสังคมวิทยาชาวอเมริกัน คาร์ล ซิมเมอร์แมน ในปี พ.ศ. 2473-2474 ได้รายงานว่าชาว
ชนบทในเมืองไทยไม่ได้รับประโยชน์จากการแพทย์แผนปัจจุบันเลย มีเพียงไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ที่ได้รับการรักษาโรคโดย
82
การแพทย์แผนปัจจุบันจากโรงพยาบาล ที่จัดตั้งขึ้นโดยรัฐบาลและพวกมิชชันนารี และในการบรรยายของนายแพทย์
เรดฟิลด์ ในที่ประชุมประจำเดือนของแพทยสมาคมฯ เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2474 ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
75 วรนารถ แก้วคีรี, “โรคระบาดในชุมชนภาคกลางของไทย พ.ศ. 2440-2475: การศึกษาเชิงวิเคราะห์,” (วิทยานิพนธ์อักษรศา
สตรมหาบัณฑิต ภาควิชาประวัติศาสตร์ บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2535), หน้า 165.
76 ทวีศักดิ์ เผือกสม, วาทกรรมการแพทย์สมัยใหม่ของตะวันตกกับการเปลี่ยนแปลงของรัฐไทย: ข้อสังเกตเบื้องต้น วารสาร
ธรรมศาสตร์,” 26, 2 (พฤษภาคม-สิงหาคม 2543): 85.
77 โปรดดู Wariya Siwasariyanon, “The Transfer of Medical Technology from the First World to the Third
World : A Case study of the Rockefeller Foundation’s Role in a Thai Medical School (1923-1935),” (Unpublished
Doctoral Dissertation, University of Hawaii, 1984).
78 เพ็ญศรี กวีวงศ์ประเสริฐ, “บทบาทของรัฐต่อปัญหาสุขภาพของประชาชน (พ.ศ. 2325-หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง
พ.ศ. 2475),” (วิทยานิพนธ์สังคมศาสตร์มหาบัณฑิต คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, 2528). หน้า 171.
79 สันติสุข โสภณสิริ, เกียรติประวัติการแพทย์ไทยฝากไว้ให้คนรุ่นหลัง ชีวประวัติ ศ.นพ. เสม พริ้งพวงแก้ว (กรุงเทพฯ: เรือน
แก้วการพิมพ์. 2539), หน้า 11.
80 รายงารกรมสาธารณสุขประจำปีพุทธศักราช 2465 2466 และ 2467, (กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์อักษรนิติ, 2468), หน้า 154.
81 รายงานกรมสาธารณสุขประจำปีพุทธศักราช 2468, (กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์อักษรนิติ, 2470), หน้า 114.
82 คาร์ล ซี. ซิมเมอร์แมน, การสำรวจเศรษฐกิจในชนบทแห่งสยาม, แปลโดย ซิม วีระไวทยะ, (กรุงเทพฯ : มูลนิธิโครงการตำรา
มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 2525), หน้า 136.
36