Page 121 - เอกสารประกอบการประชุมวิชาการ ครั้งที่ 23
P. 121
การประชุมวิชาการ
120 สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 23
ประชาธิปไตยในภูมิทัศน์ใหม่
ตามพัฒนาการของสังคม การรักษาพยาบาลในอดีตส่วนใหญ่เป็นตามความต้องการและอำนาจ
การตัดสินใจของแพทย์แต่ลำพัง (Doctor Autonomy) แต่เมื่อสังคมได้รับอิทธิพลจากแนวคิด
ปัจเจกชนและประชาธิปไตย ทำให้ยอมรับว่าผู้ป่วยเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการรักษาพยาบาล
มีอำนาจและอิสระในการตัดสินใจเลือกวิธีการรักษาด้วยตนเองได้ (Patient Autonomy)
จึงทำให้เกิดหลักการยินยอมในการรักษาพยาบาล (Informed consent) ซึ่งเป็นการแสดงถึง
การเคารพสิทธิและเสรีภาพของมนุษย์ สิทธิในชีวิตและร่างกายตลอดจนสิทธิในความเป็น
ส่วนตัวของผู้ป่วย (แสวง บุญเฉลิมวิภาส และคณะ, 2564) และปัจจุบันแนวคิดเรื่องสุขภาพได้
เปลี่ยนแปลงไปอีกระดับหนึ่งคือยังคำนึงถึงบริบทของสังคมและชุมชนด้วย เนื่องจากสาเหตุของ
ความเจ็บป่วยในปัจจุบันไม่ใช่เพียงแค่เกิดจากเชื้อโรคเท่านั้น แต่ยังมีปัจจัยด้านพฤติกรรมและ
สังคมที่ก่อให้เกิดความเจ็บป่วยหรือที่เรียกว่าปัจจัยสังคมกำหนดสุขภาพ (Social determinant
of health)(สุนีย์ สุขร่าง บรรณาธิการ, 2560) ดังนั้นระบบสุขภาพจึงต้องให้ความสำคัญกับ
สิทธิผู้ป่วย ความต้องการของผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุในช่วงวาระสุดท้ายของชีวิต โดยเชื่อมโยงกับ
บริบทของสังคมและสิ่งแวดล้อม แต่ปัญหาคือปัจจุบันบุคลากรสุขภาพไทยมองสุขภาพผ่านมิติ
ทางการแพทย์เท่านั้น ไม่ค่อยคำนึงถึงสิทธิผู้ป่วย จำกัดบทบาทตนเองไว้ที่มิติทางการแพทย์
ซึ่งเป็นการมองระบบสุขภาพในลักษณะที่แยกขาดจากมิติอื่นของสังคม
ดังนั้นโดยสรุป เมื่อมีความจำเป็นทางประชากรศาสตร์ที่มีผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่โรคที่เป็น
โรคที่ไม่อาจรักษาให้หายได้เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งสภาพเศรษฐกิจและสังคมก็มีการพัฒนาไปจน
ทำให้เกิดสังคมเมือง ทัศนคติที่เกี่ยวกับความตายเปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งประชากรมีสำนึก
ในเรื่องสิทธิและเสรีภาพมากยิ่งขึ้น เหล่านี้ทำให้รูปแบบและบริบททางการแพทย์จะต้อง
เปลี่ยนแปลงไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพัฒนาศาสตร์ในเรื่องการดูแลแบบ
ประคับประคองที่มีองค์ความรู้เฉพาะที่เหมาะสมกับศาสนา วัฒนธรรมและประเพณีไทย
ในต่างประเทศมีการศึกษาเป็นจำนวนมากพบว่าการดูแลแบบประคับประคองช่วยเพิ่ม
คุณภาพชีวิตและช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพในทุกระดับของการดูแล ช่วยลดการกลับเข้า
รักษาตัวในโรงพยาบาล (readmission rates) ลดการเข้ารักษาตัวในหอผู้ป่วยระยะวิกฤตและ
เพิ่มความพึงพอใจในการรักษาให้ผู้ป่วยและครอบครัว การมีการดูแลแบบประคับประคอง
ในการดูแลที่บ้านช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดูแล และลดการมาห้องฉุกเฉิน ลดการกลับเข้ารักษาตัว
ในโรงพยาบาล รวมถึงลดระยะเวลานอนโรงพยาบาล การมีระบบการดูแลแบบประคับประคอง
ที่บ้าน ช่วยลดค่าใช้จ่ายและสร้างความพึงพอใจแก่ผู้รับบริการ จะเห็นได้ว่าการดูแลแบบประคับ
ประคอง เป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องพัฒนาให้เกิดระบบบริการที่มีคุณภาพที่ผู้ป่วยระยะท้าย
การประชุมกลุ่มย่อยที่ 4
และครอบครัวต้องเข้าถึงได้ ทั้งในโรงพยาบาลและที่บ้าน (กรมการแพทย์, 2563)