Page 119 - เอกสารประกอบการประชุมวิชาการ ครั้งที่ 23
P. 119
การประชุมวิชาการ
118 สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 23
ประชาธิปไตยในภูมิทัศน์ใหม่
บทความชิ้นนี้จะเป็นการศึกษานโยบายและกฎหมายของรัฐที่เกี่ยวข้องหรือส่งผล
ต่อการตายดีของประชาชน โดยศึกษาจากบทความวิชาการที่ได้รับการยอมรับในระดับ
นานาชาติและนำมาพิจารณาเปรียบเทียบกับนโยบายหรือกฎหมายที่สำคัญของรัฐไทย
เพื่อเสนอแนะแนวทางการพัฒนาและปรับปรุงนโยบายและกฎหมายของรัฐเพื่อเตรียม
ความพร้อมให้กับระบบสังคม ระบบบริการจัดการภาครัฐเพื่อรองรับกับความท้าทาย
ในการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุและผู้ป่วยระยะท้ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
2. ความสำคัญของการดูแลแบบประคับประคองกับสังคมไทย
การดูแลแบบประคับประคอง (Palliative care) เป็นรูปแบบการดูแลที่ผสมผสานการดูแล
ทางการแพทย์ ทางสังคม ทางจิตใจและทางจิตวิญญาณ เข้าด้วยกันโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้
ผู้ที่ได้รับการดูแลมี “คุณภาพชีวิตที่ดี” เท่าที่สภาพร่างกายและการดำเนินโรคของผู้ป่วย
จะเอื้ออำนวย ทั้งนี้เพื่อให้ผู้นั้นจากไปอย่างสงบ สมศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ดังนั้นการดูแล
แบบประคับประคองจึงเป็นการ “เปลี่ยนเป้าหมาย” การดูแลจากเดิมที่มุ่งให้ “หายขาดจาก
อาการ” เป็นให้ “อยู่กับอาการ” ที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้โดยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีเท่าที่
สภาพร่างกายและการดำเนินโรคของผู้ป่วยจะเอื้ออำนวย
การพัฒนาศาสตร์ด้านการดูแลแบบประคับประคองเริ่มต้นในสังคมตะวันตกก่อนสังคม
ไทยทั้งนี้เป็นเพราะสังคมตะวันตกเผชิญหน้ากับปัญหาความท้าทายทางประชากรศาสตร์และ
การนำเทคโนโลยีทางการแพทย์มาใช้ในการรักษาเกินควรก่อน กล่าวคือ เมื่อมีผู้ป่วยที่เป็น
โรคเรื้อรังที่ไม่อาจรักษาให้หายขาดได้และจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งมีการนำ
เทคโนโลยีทางการแพทย์มาใช้ในการดูแลเกินสมควรจนยื้อความตายออกไปได้ ทำให้ผู้ป่วย
เรื้อรังหรือผู้สูงอายุอยู่ในสภาพ “ฟื้นไม่ได้ตายไม่ลง” นอนติดเตียงอยู่เป็นจำนวนมาก สภาพ
ของผู้ป่วยที่อยู่ติดเตียงพร้อมด้วยเครื่องมือทางการแพทย์เป็นสภาพที่น่าหดหู่ใจสำหรับผู้พบเห็น
ในสังคมตะวันตกจึงเกิดคำถามว่ากระบวนการทางการแพทย์เหล่านี้เป็นการไปละเมิดสิทธิหรือ
ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์หรือไม่ มูลเหตุดังกล่าวทำให้เกิดแนวคิดของการ “หาความสมดุล”
ระหว่างกระบวนการดูแลทางการแพทย์ที่เหมาะสมไม่เป็นการเร่งการตายหรือยืดการตายแต่ยัง
คงรักษาและดูแลผู้ป่วยอย่างมีคุณภาพคงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์จนกระทั่งผู้นั้นเสียชีวิต
สำหรับสังคมไทยการพัฒนาศาสตร์ของการดูแลแบบประคับประคองเกิดขึ้นจาก
ความจำเป็น 4 ประการ คือ
การประชุมกลุ่มย่อยที่ 4 มากขึ้น โดยในปี พ.ศ. 2564 ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์แล้ว กล่าวคือ
2.1 สังคมไทยมีจำนวนผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่เป็นโรคเรื้อรังรุนแรงและรักษาไม่หายเพิ่ม
มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปมากกว่าร้อยละ 20 ของประชากรทั้งประเทศ (กรมอนามัย,
2563) และจากรายงาน Health data center ของกระทรวงสาธารณสุข ณ วันที่ 30
กันยายน 2563 คัดกรองความสามารถในการดำเนินชีวิตประจำวัน (ADL) ผู้สูงอายุจำนวน