Page 38 - 23154_Fulltext
P. 38
33
ต้องใช้เสียงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่น้อยกว่าสองในห้า และการตั้งกระทู้ถามทั่วไปที่รัฐมนตรีจะตอบหรือไม่ก็ได้
เป็นต้น
ข้อเสนอแนะของงานวิจัยฉบับนี้แบ่งเป็นสามส่วน ส่วนที่หนึ่งคือ ข้อเสนอแนะในการเพิ่มประสิทธิผลให้กับ
กระบวนการตรากฎหมายนั้น 1. รัฐสภาควรมีหน่วยงานด้านการร่างกฎหมายที่มีคุณภาพเพื่อช่วยเหลือสมาชิก
รัฐสภาโดยตรง 2. รัฐสภาควรก าหนดระยะเวลาในการอภิปรายร่างกฎหมายต่างๆอย่างชัดเจน 3. ร่างกฎหมาย
เกี่ยวด้วยการเงินจะต้องมีการก าหนดระยะเวลาที่นายกรัฐมนตรีจะให้หรือไม่ให้ค ารับรองอย่างชัดเจน 4.
คณะกรรมาธิการที่ท าหน้าที่ในการพิจารณาร่างกฎหมายจะต้องมีอ านาจในการสั่งให้บุคคลต่างๆมาชี้แจงได้ 5. ควร
เปิดโอกาสให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ท าหน้าที่ในการให้ความเห็นต่อร่างกฎหมายอย่างเต็มที่ และ 6. ควรเพิ่ม
ค่าตอบแทนให้ผู้ช่วย ส.ส. และ ส.ว.
ข้อเสนอแนะเพื่อให้รัฐสภามีประสิทธิผลเพิ่มขึ้นในการตรวจสอบการท างานของฝ่ายบริหาร ประกอบไป
ด้วย 1. ข้อเสนอให้เพิ่มจ านวนส าหรับกระทู้ถามสด 2. เสนอให้มีการเผยแพร่รายงานการศึกษาของ
คณะกรรมาธิการที่ท าหน้าที่ตรวจสอบการท างานของรัฐบาลให้ประชาชนทราบ 3. เสนอให้รัฐสภามีประสิทธิผล
เพิ่มขึ้นในด้านการพิจารณาเลือก ให้ค าแนะน า และแต่งตั้งให้บุคคลด ารงต าแหน่งในองค์กรตามที่บัญญัติไว้ใน
รัฐธรรมนูญ 4. เสนอให้รัฐสภามีประสิทธิผลในการท าหน้าที่ถอดถอนผู้ด ารงต าแหน่งทางการเมือง
ข้อเสนอในการเป็นตัวแทนของปวงชนชาวไทย ได้แก่ ควรมีสถานที่ในการท างานให้สมาชิกรัฐสภาแต่ละ
คน และควรมีการจัดอบรมความรู้เฉพาะเรื่องให้กับสมาชิกรัฐสภาอย่างต่อเนื่อง
ตัวอย่างต่อมาของงานในเชิงประสิทธิผล คือ ภาคภูมิ ฤกขะเมธ และ วรัญญา วุฒิพันธุ์ (2557) ซึ่งศึกษา
องค์ประกอบและการท าหน้าที่นิติบัญญัติของรัฐสภาไทย ชุดที่ 24 : การผสมผสาน หลักฐานข้อมูล และความ
คิดเห็นในเชิงประเมิน โดยท าการประเมินองค์ประกอบและการท าหน้าที่ด้านนิติบัญญัติของรัฐสภาไทยชุดที่ 24 ที่
ด าเนินการในช่วงสิงหาคม 2554 – เมษายน 2556 โดยพบว่า แม้ว่ารัฐสภาจะท าหน้าที่ในกระบวนการนิติบัญญัติ
เป็นจ านวนมาก ซึ่งอาจจะสะท้อนถึงประสิทธิผลของการด าเนินงานและการท าหน้าที่ได้อย่างดี แต่หากดูที่
สาระส าคัญแล้วพบว่า กฎหมายหลายฉบับไม่ได้เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง ทั้งกระบวนการ
และผลของกฎหมาย ที่มองข้ามความจ าเป็นความเดือดร้อนและผลประโยชน์ของประชาชน และขาดการประเมิน
การยอมรับจากกลุ่มต่าง ๆ ท าให้ความเชื่อมั่นศรัทธาที่ประชาชนมีต่อรัฐสภาลดต่ าลง กุญแจส าคัญของการ
แก้ปัญหานี้ จึงอยู่ที่ความส านึก ความตระหนักของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ตัวอย่างของงานศึกษาระบบรัฐสภาไทยในเชิงประสิทธิผลอีกงานหนึ่ง คืองานวิจัยการประเมินผลการ
ด าเนินงานของรัฐสภาไทย โดยสถาบันพระปกเกล้า ตัวอย่างเช่น วุฒิสาร ตันไชย และคณะ (2562) ได้ด าเนิน
โครงการประเมินผลการด าเนินงานของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมีข้อเสนอแนะดังนี้