Page 234 - kpi22350
P. 234

เอกชนได้ใช้เหล็กไม่เป็นไปตามขนาดที่กำหนดไว้ตามสัญญาจ้าง ซึ่งผู้รับจ้างได้มีหนังสืออ้างอิงว่า
                        ได้ขออนุญาตเปลี่ยนแปลงวัสดุก่อสร้างเพื่อลดขนาดเหล็ก จาก 4 มิลลิเมตร เป็น 3.2 มิลลิเมตร จำนวน
                        800 ตารางเมตร และปรับลดราคาวัสดุลง เนื่องจากเหล็กขาดตลาด โดยมีวิศวกรรับรองว่าการก่อสร้างนั้น

                        สามารถใช้เหล็กขนาด 3 มิลลิเมตรได้                                                                รายงานสถานการณ์

                                    หลังจากนั้นคณะกรรมการตรวจรับการจ้างได้ตรวจงานเป็นครั้งที่ 2 และเสนอว่าผู้รับจ้าง

                        ได้ส่งมอบงานโดยมีปริมาณและคุณภาพถูกต้องครบถ้วนแล้ว แต่ต่อมาเทศบาลตำบลได้มีหนังสือขอให้
                        กรมทางหลวงทำการเจาะทดสอบพื้นผิวถนน จำนวน 7 จุด ปรากฎว่า มีบางจุดที่ใช้เหล็กไม่เป็นไปตามขนาด
                        ที่ได้รับอนุมัติ เทศบาลจึงมีหนังสือไปยังบริษัทเอกชนให้แก้ไขงาน แต่บริษัทเอกชนเพิกเฉย จึงยื่นฟ้องต่อ

                        ศาลปกครองเพื่อบอกเลิกสัญญาจ้าง

                                    กรณีนี้ศาลปกครองได้พิจารณาแล้วว่า บริษัทเอกชนได้ใช้เหล็กขนาด 3 มิลลิเมตร

                        ที่ไม่เป็นไปตามขนาดคำสั่งอนุมัติจริง จึงมีคำสั่งให้บริษัทเอกชนดำเนินการแก้ไข และคำสั่งบอกเลิกสัญญา
                        จ้างของเทศบาลตำบลจึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย นอกจากนี้การก่อสร้างถนนเพื่อประชาชนได้ใช้

                        ประโยชน์ในการสัญจร จึงเห็นควรกำหนดค่าแห่งการงานที่ได้ทำไว้แล้วและได้ใช้ประโยชน์ได้บ้างในอัตรา
                        ร้อยละ 60 ของค่าจ้างตามสัญญา (อ้างอิง คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ. 104/2563)

                                  ® การตกลงซื้อขายสัญญาณไฟจราจรด้วยวาจา มีผลผูกพันตามกฎหมายหรือไม่      35


                                    คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งได้ตกลงซื้อขายสัญญาณไฟจราจรพร้อมติดตั้งกับ
                        นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งหนึ่ง โดยนายก อบต. ตกลงซื้อขายและแจ้งว่าจะจ่ายเงินให้เมื่อ          ส่วนที่ 2 สถิติและข้อมูลสถานการณ์การกระจายอำนาจและการปกครองส่วนท้องถิ่นไทย

                        ข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีขององค์การบริหารส่วนตำบลผ่านความเห็นชอบจากสภาองค์การ
                        บริหารส่วนตำบลแล้ว หลังจากนั้นบริษัทเอกชนได้ไปติดตั้งสัญญาณไฟจราจร และองค์การบริหารส่วนตำบล
                        ได้ใช้ประโยชน์จากสัญญาณไฟจราจรเรื่อยมา จนกระทั่งสภาองค์การบริหารส่วนตำบลได้ให้ความเห็นชอบ

                        ข้อบัญญัติงบประมาณฯ แล้ว บริษัทเอกชนจึงเรียกเก็บเงินจากองค์การบริหารส่วนตำบล พร้อมให้ทนาย
                        ส่งหนังสือทวงถามอีกครั้ง แต่องค์การบริหารส่วนตำบลปฏิเสธ โดยอ้างว่า ผู้ตกลงซื้อขายกับบริษัทเอกชนคือ

                        นายกองค์การบริหารส่วนตำบลในขณะนั้น โดยไม่ได้มีการตั้งงบประมาณรายจ่ายหรือทำรายการขอจัดซื้อ
                        สัญญาณไฟจราจร และไม่เคยมีคำสั่งให้จัดหาครุภัณฑ์หรือแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจรับพัสดุแต่อย่างใด
                        องค์การบริหารส่วนตำบลจึงไม่ชำระเงินให้แก่บริษัทเอกชน ดังนั้นบริษัทเอกชนแห่งนี้จึงนำเรื่องมาฟ้องต่อ

                        ศาลปกครองให้องค์การบริหารส่วนตำบลชำระเงินตามสัญญาพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี

                                    ศาลปกครองสูงสุดได้พิจารณาแล้วเห็นว่า การตกลงซื้อขายสัญญาณไฟจราจรระหว่าง

                        บริษัทเอกชนกับองค์การบริหารส่วนตำบลเป็นการซื้อขายสังหาริมทรัพย์ ซึ่งกฎหมายไม่ได้กำหนดให้ต้องทำ
                        ตามแบบ แม้ว่าจะตกลงกันด้วยวาจาก็มีผลบังคับตามกฎหมาย และเมื่อเป็นการซื้อขายกันที่ราคาไม่เกิน

                        100,000 บาท แม้ว่าระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการพัสดุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
                        พ.ศ.2535 ข้อ 32 กำหนดให้เจ้าหน้าที่พัสดุเป็นผู้ติดต่อตกลงราคากับผู้ขายหรือผู้รับจ้างโดยตรง แต่เมื่อ


                              35   สำนักงานศาลปกครอง. (2 พฤศจิกายน 2563). “ตกลงซื้อขายสัญญาณไฟจราจรด้วยวาจา มีผลผูกพันหรือไม่?”,
                        อุทาหรณ์จากคดีปกครอง. สืบค้นจาก www.admincourt.go.th/admincourt/site/09illustration_list-11.html เมื่อวันที่
                        5 พฤษภาคม 2564.



                                                                                                 สถาบันพระปกเกล้า   223
   229   230   231   232   233   234   235   236   237   238   239