Page 228 - kpi22350
P. 228
กรณีนี้ศาลปกครองได้พิจารณา 2 ประเด็น คือ ประเด็นที่ 1 นายกองค์การบริหาร
ส่วนตำบลได้เบิกจ่ายเงินที่ส่อไปในทางทุจริตจริงหรือไม่? ศาลปกครองพิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีการจัดซื้อ
กระสอบทรายเพื่อแก้ปัญหาอุทกภัยได้มีการเบิกจ่ายจริง แต่ไม่ปรากฏหลักฐานการเบิกจ่ายเพื่อยืนยันกับ
คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงได้ ส่วนกรณีการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน รายงานสถานการณ์
เป็นการเบิกจ่ายผิดหมวดและผิดวัตถุประสงค์ของงบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้ ดังนั้นศาลปกครองจึงพิจารณา
ว่า การเบิกจ่ายงบประมาณดังกล่าวของนายกองค์การบริหารส่วนตำบลไม่สามารถชี้แจงและแสดงพยาน
หลักฐานเพื่อหักล้างข้อกล่าวหาได้ แสดงให้เห็นข้อพิรุธในการเบิกจ่ายงบประมาณ จึงเชื่อได้ว่าการเบิกจ่าย
งบประมาณในการจัดทำบริการสาธารณะขององค์การบริหารส่วนตำบลไม่ถูกต้องตามที่มีการกล่าวหาจริง
ส่วนประเด็นที่ 2 นายอำเภอมีอำนาจวินิจฉัยให้นายกองค์การบริหารส่วนตำบลพ้นจากตำแหน่งได้หรือไม่?
ศาลปกครองได้อ้างกฎหมายมาตรา 58/1 (3) ซึ่งเป็นเหตุให้พ้นจากตำแหน่งตามมาตรา 64 วรรคหนึ่ง
ให้นายอำเภอมีอำนาจสอบสวนและวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งได้ และคำวินิจฉัยของนายอำเภอถือเป็นที่สุด
(อ้างอิง คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ. 112/2563)
2) การพ้นจากตำแหน่งของผู้บริหารท้องถิ่น
® หากมีคำสั่งให้ผู้บริหารท้องถิ่นพ้นจากตำแหน่งแล้ว ต้องแจ้งไปยังที่ทำงานหรือไม่? 28
คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อเทศบาลแห่งหนึ่งได้ประกาศสอบราคาจ้างโครงการวางท่อระบายน้ำ
หลังจากโครงการแล้วเสร็จก็มีผู้ไปร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ความว่า นายกเทศมนตรีละเว้นไม่แต่งตั้งช่าง
ผู้ควบคุมงาน ซึ่งช่างคนเดิมได้ย้ายไปปฏิบัติราชการที่อื่น ทำให้ไม่มีช่างผู้ควบคุมงาน ส่งผลให้การก่อสร้าง ส่วนที่ 2 สถิติและข้อมูลสถานการณ์การกระจายอำนาจและการปกครองส่วนท้องถิ่นไทย
ไม่เป็นไปตามสัญญา ถือเป็นความผิดอาญามาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
ผู้ว่าราชการจังหวัดจึงแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วเชื่อว่า กรณีดังกล่าว
นายกเทศมนตรีมีพฤติการณ์ตามที่ถูกกล่าวหาจริง จึงรายงานไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ซึ่งต่อมาได้มีคำสั่งลงวันที่ 31 ตุลาคม 2561 สั่งให้นายกเทศมนตรีพ้นจากตำแหน่ง และต่อมาได้มีการแจ้ง
คำสั่งดังกล่าวให้นายกเทศมนตรีทราบทั้งที่บ้านและที่ทำงาน ซึ่งมีระยะเวลาแตกต่างกัน 2 วัน คือ ที่บ้าน
ได้รับแจ้งวันที่ 26 มกราคม 2562 ส่วนที่ทำงานได้รับแจ้งวันที่ 28 มกราคม 2562 นายกเทศมนตรีเห็นว่า
ตนได้ปฏิบัติหน้าที่ราชการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องแล้ว คำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งจึงไม่ชอบด้วย
กฎหมาย และอ้างว่าหากนับระยะเวลาการฟ้องคดีภายใน 90 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งไปยังเทศบาล
ซึ่งเป็นที่ทำงานของตน ก็ถือว่ายังสามารถยื่นฟ้องคดีภายในระยะเวลาตามกฎหมายได้ จึงขอให้ศาลปกครอง
เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 46 ระบุว่า ภูมิลำเนาของข้าราชการ ได้แก่
ถิ่นอันเป็นที่ทำการตามตำแหน่งหน้าที่ และมาตรา 69 วรรค 2 ระบุว่า การแจ้งเป็นหนังสือให้ส่งหนังสือแจ้ง
ต่อผู้นั้น หรือถ้าได้ส่งไปยังภูมิลำเนาของผู้นั้น็ให้ถือว่าได้รับแจ้งตั้งแต่ในขณะที่ไปถึง
28 สำนักงานศาลปกครอง. (11 มีนาคม 2564). “คำสั่งให้ผู้บริหารท้องถิ่นพ้นจากตำแหน่ง ต้องแจ้งไปยังที่ทำงานหรือไม่?”,
อุทาหรณ์จากคดีปกครอง. สืบค้นจาก www.admincourt.go.th/admincourt/site/09illustration_list-11.html เมื่อวันที่
5 พฤษภาคม 2564.
สถาบันพระปกเกล้า 217