Page 227 - kpi22350
P. 227

ทำการนับจากวันรับฎีกา แต่หากกรณีมีเหตุทักท้วงให้ดำเนินการให้เสร็จภายใน 3 วันทำการนับจากวันที่
            รายงานสถานการณ์    ต้องพิจารณาเหตุผลของการปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าในแต่ละกรณีและความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยหากล่าช้า
                     ผู้เบิกได้แก้ไขถูกต้องแล้ว
                                กรณีนี้ศาลปกครองได้พิจารณาว่า การเบิกจ่ายเงินล่าช้าไม่เป็นไปตามระเบียบที่กำหนดไว้



                     อันเกิดจากเหตุเอกสารไม่ครบถ้วนไม่ถูกต้องตามระเบียบ และผู้เสียหายหรือผู้รับจ้างมิได้ติดใจในความเสียหาย

                     ก็ไม่ถือว่าเป็นการกระทำผิดทางวินัยกรณีเพิกเฉยละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ ศาลปกครองจึงมีคำสั่งให้
                     เพิกถอนคำสั่งลงโทษและมติคณะกรรมการสอบสวนวินัย (อ้างอิง คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่
                     อบ.92/2563)
            ส่วนที่ 2 สถิติและข้อมูลสถานการณ์การกระจายอำนาจและการปกครองส่วนท้องถิ่นไทย
                              ® ผู้บริหารท้องถิ่นบริหารงบประมาณที่ส่อไปในทางทุจริตมีสิทธิพ้นจากตำแหน่งได้ 27

                                คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อมีผู้ร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแห่งหนึ่งว่า นายกองค์การบริหาร

                     ส่วนตำบลมีพฤติการณ์ทุจริตเกี่ยวกับการดำเนินงาน ไม่ว่าจะเป็นการจัดซื้อปุ๋ยแจกจ่ายแก่เกษตรกร
                     การแก้ปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ การซ่อมแซมถนนลูกรัง และการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนศูนย์อาสาสมัครป้องกัน

                     ภัยฝ่ายพลเรือน โดยทางจังหวัดจึงมีหนังสือแจ้งไปยังนายอำเภอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการตาม
                     หน้าที่กรณีมีการร้องเรียนกล่าวหานายกองค์การบริหารส่วนตำบลว่าบริหารงบประมาณไม่ถูกต้องส่อไป
                     ในทางทุจริต


                                นายอำเภอจึงตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า นายกองค์การบริหาร
                     ส่วนตำบลมีพฤติการณ์ที่ไม่ชอบด้วยหน้าที่ส่อไปในทางทุจริตหรือกระทำผิดต่อหน้าที่ราชการจริง

                     อันเป็นการกระทำที่ต้องห้ามตามมาตรา 58/1 (3) มีผลให้ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกองค์การบริหาร
                     ส่วนตำบล


                                นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเห็นว่าคำวินิจฉัยของนายอำเภอเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วย
                     กฎหมาย เนื่องจากตนไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา อีกทั้งการสั่งให้พ้นจากตำแหน่งต้องเป็นอำนาจของ
                     ผู้ว่าราชการจังหวัด จึงนำคดีดังกล่าวมาฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนคำวินิจฉัยของ

                     นายอำเภอและให้ชดเชยค่าเสียหาย

                                หากพิจารณาตามระเบียบพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล
                     พ.ศ. 2537 มาตรา 58/1 ระบุว่า บุคคลผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบล

                     ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายดังต่อไปนี้... (3) ไม่เป็นผู้มีพฤติกรรมในทางทุจริต
                     หรือพ้นจากตำแหน่งผู้บริหารท้องถิ่น เพราะมีส่วนได้เสียโดยตรงหรือโดยอ้อมในสัญญาหรือกิจการที่

                     กระทำกับองค์การบริหารส่วนตำบลยังไม่ถึง 5 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง และ มาตรา 64 วรรคหนึ่ง ระบุว่า
                     นายกองค์การบริหารส่วนตำบลพ้นจากตำแหน่งเมื่อขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 58/1
                     และเมื่อมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความเป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบลสิ้นสุดลง ให้นายอำเภอสอบสวนและ

                     วินิจฉัยโดยเร็ว คำวินิจฉัยของนายอำเภอให้เป็นที่สุด


                           27   สำนักงานศาลปกครอง. (29 กันยายน 2563). “บริหารงบประมาณส่อไปในทางทุจริต ก็มีสิทธิ...พ้นจากตำแหน่งได้”,
                     อุทาหรณ์จากคดีปกครอง. สืบค้นจาก www.admincourt.go.th/admincourt/site/09illustration_list-11.html เมื่อวันที่
                     5 พฤษภาคม 2564.


                216   สถาบันพระปกเกล้า
   222   223   224   225   226   227   228   229   230   231   232