Page 87 - kpi22237
P. 87

81


                       4.5.6 ปัญหาระบบการสรรหา (voting/appointment system) การใช้จ านวนสมาชิกในสาขา

               พรรค ตัวแทนพรรคประจ าจังหวัด ชุดรายชื่อ และบัญชีรายชื่อในการเลือกตั้งขั้นต้น
                       ปัญหาที่สองของตัวระบบการสรรหา (voting/appointment system) เป็นประเด็นของสถานะของ
               ประชาชนที่เข้ามามีส่วนร่วมในการเลือกตั้งขั้นต้นที่ต้องมีการใช้จ านวนสมาชิกในสาขาพรรค ตัวแทนพรรคประจ า

               จังหวัด ชุดรายชื่อ และบัญชีรายชื่อในการเลือกตั้งขั้นต้น ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรค
               การเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 47 วางหลักกฎหมายให้พรรคการเมืองแต่ละพรรคหากต้องการส่งผู้สมัครลงแข่งใน

               เขตเลือกตั้งใดนั้น ต้องมีสาขาพรรคการเมือง (ต้องมีสมาชิกที่มีภูมิล าเนาอยู่ในเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบของสาขานั้น
               ตั้งแต่ 500 คนขึ้นไป) โดยประชุมคัดเลือกจากสาขาพรรคที่มีผู้เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 100 คน หรือตัวแทนพรรค

               การเมืองประจ าจังหวัด (สมาชิกที่มีภูมิล าเนาอยู่ในเขตเลือกตั้งในจังหวัดนั้นเกิน 100 คน) ประชุมคัดเลือกโดยมี
               ผู้เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 50 คน ที่มีเขตพื้นที่รับผิดชอบในเขตเลือกตั้งนั้น

                       โดย ภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กับสื่อเพื่อชี้ให้เห็นข้อจ ากัดว่าพรรคเพื่อไทย

               มีฐานเสียงอยู่ในภาคเหนือและภาคอีสาน แต่การหาสมาชิกพรรคในภาคใต้และกรุงเทพฯ ยังมีข้อจ ากัดอยู่เพราะ
               สมาชิกมายืนยันตัวตนไม่มากนัก กล่าวได้ว่า


                           “...ในช่วงเดือน เม.ย.ที่ให้ยืนยันการเป็นสมาชิกพรรค มีเวลาแค่ 30 วัน และยังชนกับ
                           วันสงกรานต์อีก 10 วัน เหลือเวลาให้ยืนยันสมาชิกพรรคเพียงแค่ 20 วัน พรรคเพื่อไทย

                           ได้สมาชิกพรรคกลับมา 10 เปอร์เซ็นต์ก็ถือว่าน่าพอใจ อย่างไรก็ตาม การสร้างข้อจ ากัด
                           ในการยืนยันสมาชิกพรรคถือเป็นปัญหาอยู่แล้ว แต่เมื่อถึงเวลาการเมืองเปิดพรรค
                           พรรคก็มีฐานในพื้นที่ส าหรับการหาสมาชิกพรรคเพียงแต่จะยุ่งยากมากขึ้น. . . ”

                           (ประชาชาติธุรกิจ 2561)

                       อีกกรณีตัวอย่างหนึ่งมาจาก นิกร จ านง แกนน าคนส าคัญและด ารงต าแหน่งผู้อ านวยการพรรคชาติไทย

               พัฒนาได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า

                             “...ไพรมารีโหวต พรรคหนึ่งต้องใช้สมาชิกทั่วประเทศอย่างน้อย 7,000 คน หรือใช้

                           สาขาอย่างน้อย 500 คน หรือตัวแทนจังหวัด ไม่น้อยกว่า 120 คน ดังนั้นจ าเป็นต้องหา
                           สมาชิกพรรคให้ครบตามหลักเกณฑ์ของการท าไพรมารีโหวต อย่างพรรคชาติไทยพัฒนา

                           ที่มียอดเบื้องต้น 2,500 คน ต้องหาสมาชิกอีก 6,000 คนเพื่อให้เพียงพอต่อการท าไพรมา
                           รีโหวต ทั่วประเทศ ซึ่งไม่ง่ายประกอบกับมีเวลาสั้น ดังนั้นผมอยากให้ทบทวนการท าไพร
                           มารีโหวต ให้น าไปใช้ในการเลือกตั้งรอบหน้าจะดีกว่า ไม่เช่นนั้นทั้งพรรคเก่าในระบบกับ

                           พรรคการเมืองเกิดใหม่จะล าบากมาก และระบบนี้อาจกระทบต่อทั้งระบบพรรคการเมือง
                           ...” (คมชัดลึก 2561)
   82   83   84   85   86   87   88   89   90   91   92