Page 81 - kpi22237
P. 81

75


                       อีกตัวอย่างหนึ่งมาจากการให้สัมภาษณ์สื่อของ นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่ตั้ง

               ค าถามกับกระบวนสรรหาผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งด้วยการเลือกตั้งขั้นต้นจากสาขาพรรคหรือตัวแทนพรรคประจ า
               จังหวัดมากกว่าให้กรรมการบริหารพรรคจัดสรรตัวบุคคลว่า “...สมมติเปรียบพรรคการเมืองเป็นบริษัทเอกชนจะ
               ให้อ านาจสาขาเหนือส านักงานใหญ่ได้อย่างไร...” (ประชาชาติธุรกิจ 2560) (เน้นโดยผู้เขียน)


                       การมองบทบาทของบุคคลที่พรรคด าเนินการสรรหาในระบบพรรคการเมืองไทยจะพบว่ามีลักษณะกระจุก
               ตัวของอ านาจที่มีผู้ตัดสินใจอยู่ไม่มากนัก (หัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค นายทุนพรรค หัวหน้ากลุ่มก้อน

               ภายในพรรค ฯลฯ) และไม่ได้ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกระบวนการดังกล่าว แม้ว่าจะมีกฎหมายวางหลักการไว้ให้
               แล้วก็ตาม แทนที่จะมองว่ากฎหมายดังกล่าวเป็นกลไกในการพัฒนาพรรคการเมือง กลับมองว่ากติกาในการ

               เลือกตั้งขั้นต้นท าให้การเลือกตั้ง พ.ศ. 2562 ถึงทางตัน ถึงขนาดที่นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติ
               แห่งชาติ (สนช.) ที่ด าเนินการออกกฎหมายดังกล่าวออกมาเองนั้น กลับเห็นว่าการที่ คสช. ใช้มาตรา 44
               “คลายล็อก” ให้พรรคการเมืองเรื่องการเลือกตั้งขั้นต้น จะท าให้การเลือกตั้งเดินหน้าได้ (กรุงเทพธุรกิจ 2561)


                       ด้วยเหตุผลข้างต้น พรรคการเมืองในฐานะสถาบันการเมืองที่ควรมีความพร้อมในการด าเนินการสรรหา
               ผู้สมัครรับเลือกตั้งและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน กลับไม่พร้อมในการด าเนินการตามการเลือกตั้งขั้นต้น

               ซึ่งอาจจะไม่ใช่เพราะไม่มีความรู้หรือไม่เข้าใจกฎหมาย หากแต่เป็นประเด็นเรื่องของโครงสร้างพรรคที่อ านาจ
               ในการจัดสรรบุคลากรลงแข่งขันเลือกตั้งกระจุกอยู่ที่ส่วนกลาง




                       4.5.4 ปัญหาการกระจายอ านาจ (decentralization) ในการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งและผู้แทน
               พรรคการเมือง

                       พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 47 ได้วางหลักกฎหมาย
               เกี่ยวกับการกระจายอ านาจของพรรคการเมืองด้วยการให้มีสาขาพรรคการเมืองตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศไทย

               ดังนี้

                             “มาตรา 47 พรรคการเมืองซึ่งประสงค์จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน

                           ราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งใด ต้องมีสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทน
                           พรรคการเมืองประจ าจังหวัด ที่มีเขตพื้นที่รับผิดชอบในเขตเลือกตั้งนั้น


                                  การส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งในเขต
                           เลือกตั้งใดให้พรรคการเมืองส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งจากผู้ซึ่งได้รับเลือกจากสาขาพรรค
                           การเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจ าจังหวัดที่มีเขตพื้นที่รับผิดชอบในเขต

                           เลือกตั้งนั้นเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง” (รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560)
   76   77   78   79   80   81   82   83   84   85   86