Page 80 - kpi22237
P. 80
74
4.5.3 ปัญหาโครงสร้างอ านาจในพรรคการเมืองในการเป็นบุคคลที่พรรคด าเนินการสรรหา (party
selectorates)
เมื่อกล่าวถึงบทบาทของบุคคลที่พรรคด าเนินการสรรหา (party selectorates) ย่อมปฏิเสธไม่ได้เลยว่า
จะต้องกล่าวถึงปัญหารากฐานของพรรคการเมืองไทยคือปัญหาในการรวมศูนย์อ านาจ (centralization) ในการ
ตัดสินใจอยู่กับกรรมการบริหารพรรคหรือคนกลุ่มน้อยในพรรคส่วนกลางที่เสียงดังมากกว่ากลุ่มอื่นที่ท างานระดับ
พื้นที่
อย่างที่บทสัมภาษณ์ของสุริยะใส กตะศิลา อดีตแกนน ากลุ่มเคลื่อนไหวพันธมิตรประชาชนเพื่อ
ประชาธิปไตย และเป็นรองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต และ
ผู้อ านวยการสถาบันปฏิรูปประเทศไทย ได้ให้ความเห็นกับ The Standard ไว้ว่า
“...บางพรรคขนาดใหญ่อย่างพรรคไทยรักไทยสมัยที่เฟื่องฟู เขามีสาขาพรรคแค่ 8
สาขาเอง ส่วนประชาธิปัตย์อาจจะเป็นพรรคหนึ่งที่ค่อนข้างให้ความส าคัญกับบทบาท
สาขาพรรค เพราะมีทั้งหมด 200 สาขา ซึ่งเท่าที่ทราบเขามีข้อบังคับให้สาขาพรรคมี
สิทธิเลือกหัวหน้าพรรคได้ ถือว่าเป็นความก้าวหน้า แต่นอกจากนี้ก็มีปัญหาตามมาว่า
มีสาขาพรรคแล้วยังไง เพราะแทบไม่เห็นบทบาทที่จะมีความส าคัญกับพรรคการเมือง
เลย บางพรรคสามีอาจจะเป็น ส.ส. ในเขต แล้วให้ภรรยาเป็นประธานสาขาพรรค
หรือไม่ก็เอาไว้ใช้เป็นฐานการเมืองของตัวเอง จะมีบทบาทก็เฉพาะช่วงการ
เลือกตั้ง หาเสียง แต่ช่วงที่ไม่มีเลือกตั้งก็ไม่ค่อยได้ท าอะไร พรรคเองก็ไม่มีเงินไป
สนับสนุน...” (เอกพล 2560)
สอดรับกับความเห็นของ กล้านรงค์ จันทิก ประธานคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ
วุฒิสภา (ส.ว.) ที่น าเสนอรายงานการพิจารณาศึกษาเรื่องการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
(ส.ส.) โดยกระบวนการเลือกตั้งขั้นต้น (primary vote) ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ได้ให้
ความเห็นไว้ว่า
“…ส าหรับการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2562 ที่ผ่านมา ประเทศไทยไม่ได้ใช้การเลือกตั้ง
ในระบบ Primary Vote เนื่องจากมีข้อติดขัดบางประการ และติดขัดต่อค าสั่งของ
คณะรักษาความสงบแห่งชาติในขณะนั้น โดยคณะกรรมาธิการพิจารณาแล้วเห็นว่า
ประเด็นการเลือกตั้งแบบ Primary Vote เป็นสิ่งที่ควรด าเนินการเพื่อลดการผูกขาด
การคัดเลือกผู้สมัครจากกรรมการบริหารพรรคหรือนายทุนของพรรคการเมือง
และเป็นการปรับเปลี่ยนพรรคการเมืองให้เพิ่มการมีส่วนร่วมของประชาชน และมี
ความโปร่งใสในความเป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น…” (The Standard 2564)