Page 244 - 21211_fulltext
P. 244
การประหยัดจากขนาดในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
และวิเคราะห์ศักยภาพการควบรวมท้องถิ่นขนาดเล็ก
(ในขณะนั้น) ตลอดจนหน่วยงานรัฐอื่น ๆ จนกระทั่งมีการทําข้อตกลงระหว่างอธิบดี
กรมปาไม้ในขณะนั้น (นายไพโรจน์ สุวรรณกร) กับชุมชนฯ ว่าจะกันพื้นที่จํานวน
ประมาณ 700 ไร่ ซึ่งประกอบด้วยพื้นที่ 282 ไร่ข้างต้นและพื้นที่แนวชายหาดและอ่าว
ออกจากเขตอุทยานฯ ทําให้การเคลื่อนไหวคัดค้านยุติ
ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา มีความเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่เนื่องจากธุรกิจ
การท่องเที่ยว วิถีชีวิตเปลี่ยนจากเกษตรกรรมและประมง เป็นธุรกิจการท่องเที่ยว
เต็มรูปแบบจนกระทั่งปัจจุบัน ในปี 2533 ได้มีการจับกุมชาวชุมชนฯ โดยฝ่ายเจ้าหน้าที่
รัฐอ้างว่า มีการบุกรุกเขตอุทยาน ฯ การเปิดสถานที่พักนักท่องเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต
ในปี พ.ศ. 2544 ราชการแจ้งให้ชุมชนฯ ทราบว่า ที่ดินบนเกาะเสม็ดทั้งหมดเป็น
ราชพัสดุในความดูแลของกรมธนารักษ์ซึ่งมีอํานาจนําออกแสวงหาประโยชน์แก่รัฐได้
และได้แจ้งให้ผู้ครอบครองเข้าทําสัญญาเช่ากับกรมธนารักษ์ ซึ่งรวมถึงผู้ที่ครอบครอง
อยู่อาศัยในพื้นที่ 170 ไร่ข้างต้น ประชาชนเกาะเสม็ดจํานวนไม่น้อยยินยอมที่จะเข้าทํา
สัญญาเช่า เพื่อประโยชน์ และความสะดวกในการได้รับอนุญาตปลูกสร้างอาคารและ
สิ่งปลูกสร้าง การซ่อมแซมอาคาร การได้รับอนุมัติให้ใช้ไฟฟ้า ซึ่งกําหนดเงื่อนไขให้
ผู้ต้องการใช้ไฟฟ้าต้องเป็นผู้เช่าที่ดินกับกรมธนารักษ์ และแนบสัญญาเช่าไปกับคําขอ
ใช้ไฟฟ้า และชาวชุมชนฯ จํานวนหนึ่งได้ฟ้องต่อศาลปกครองขอให้เพิกถอนเงื่อนไข
การต้องทําสัญญาเช่ากับการขอใช้ไฟฟ้า งศาลปกครองได้พิพากษาว่า การใช้ไฟฟ้าของ
บุคคลเป็นสิทธิโดยเสมอภาคในบริการสาธารณะของรัฐ หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง
จึงไม่อาจจะกําหนดเงื่อนไข และทําให้สมาชิกชุมชนฯสามารถเข้าถึงบริการไฟฟ้า
โดยไม่มีต้องยึดเงื่อนไขที่กรมธนารักษ์กำหนดไว้
การเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิในที่ดินที่ครอบครองทําประโยชน์ของ
ชาวชุมชนฯ ได้ดําเนินต่อมา โดยร้องเรียนต่อหน่วยงานรัฐผู้รับผิดชอบ องค์การอิสระ
เช่น สํานักงานผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภา สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
แห่งชาติ คณะกรรมาธิการวิสามัญแก้ไขปัญหาที่ดินทํากิน กฎหมายเกี่ยวกับที่ดินและ
เร่งรัดการออกเอกสารสิทธิแก่ประชาชนของสภาผู้แทนราษฎรฯลฯ ซึ่งหน่วยงาน
ที่กล่าวถึงเหล่านี้ ได้มีข้อสรุปทํานองเดียวกันว่า สมาชิกชุมชนฯ ครอบครองที่ดินเหล่านี้
มาก่อนมีประมวลกฎหมายที่ดินทําให้มีกรรมสิทธิในที่ดินและพยานหลักฐานของทาง
ราชการที่นํามายืนยันการมีสิทธิหรืออํานาจเหนือที่ดินเกาะเสม็ด ไม่อาจยืนยันได้ว่า
สถาบันพระปกเกล้า 211