Page 303 - kpi21190
P. 303
303
คำถามที่ตามมาก็คือ ถ้าจะทำให้ความเหลื่อมล้ำในพื้นที่ลดลงจะต้องทำอย่างไร
ผู้เขียนมีข้อเสนอดังนี้
ประการแรก รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งต้องแสดงเจตจำนงทางการเมืองที่ชัดเจนโดย
การประกาศเป็นวาระสำคัญแห่งชาติ และมีนโยบายการกระจายอำนาจเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ
ในสังคมเป็นนโยบายเร่งด่วนที่สำคัญของรัฐบาล และดำเนินการให้เห็นเป็นรูปธรรมโดยการผลักดัน
กฎหมายที่เอื้อต่อการถ่ายโอนภารกิจสำคัญให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดสรรรายได้ให้แก่
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพิ่มมากขึ้นถึงร้อยละ 35 ภายใน 5 ปี และการดำเนินนโยบายของ
รัฐบาลควรให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและดำเนินการในพื้นที่ด้วย
ประการที่สอง รัฐบาลควรเร่งรัดให้มีการถ่ายโอนสถานศึกษาขนาดเล็กและสถานีอนามัย
หรือ รพ.สต. ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อมรับไปดำเนินการโดยที่รัฐต้องมีแผน
เตรียมความพร้อมให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชุมชนท้องถิ่นให้สามารถเข้ามามี
บทบาทร่วมกันอย่างเป็นหุ้นส่วนกับภาครัฐในการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในพื้นที่ และ
รัฐเป็นผู้สนับสนุน ส่งเสริมด้านงบประมาณ องค์ความรู้ที่จำเป็นในการบริหารจัดการภารกิจ
ที่ถ่ายโอนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ประการที่สาม ในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาค
ในสังคม รัฐบาลควรให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจขับเคลื่อน
ยุทธศาสตร์ในระดับจังหวัด และในระดับพื้นที่ด้วยแทนที่จะให้ส่วนราชการเป็นตัวหลัก
เพียงฝ่ายเดียวในการตัดสินใจดำเนินการ และต้องให้ความสำคัญกับการสร้างความสามารถ
ในการพึ่งตนเองของประชาชนในพื้นที่ในระยะยาวมากกว่าการสงเคราะห์ประชาชนที่หวังผล
ในระยะสั้น
ประการที่สี่ คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ควรนำ
ประเด็นความเหลื่อมล้ำเป็นวาระสำคัญในการส่งเสริมการกระจายอำนาจให้องค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นสามารถมีบทบาทในการลดความเหลื่อมล้ำในสังคมท้องถิ่น เช่น การผลักดัน
การถ่ายโอนโรงเรียนขนาดเล็ก สถานีอนามัย หรือ รพ.สต. ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ไปดำเนินการ และการทำแผนพัฒนาศักยภาพและความพร้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ในการรองรับภารกิจถ่ายโอน เป็นต้น
ประการที่ห้า รัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยควรส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
มีนโยบายและแผนงานโครงการที่มีเป้าหมายแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในพื้นที่ทั้งทางด้าน
เศรษฐกิจ สังคม และการเมืองควบคู่ไปกับการสงเคราะห์ตามความจำเป็น
ประการที่หก สถาบันการศึกษาทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคควรศึกษาวิจัยเพื่อสร้าง การประชุมกลุ่มย่อยที่ 5
องค์ความรู้เกี่ยวกับความเหลื่อมล้ำในพื้นที่ และถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่ผู้บริหาร สมาชิกสภา