Page 46 - kpi20764
P. 46
ปัญห�ก�รปรับปรุงกฎหม�ยที่มีผลใช้บังคับอยู่ต�มแนวท�งปฏิรูปประเทศไทยต�มรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้�นกฎหม�ยและกระบวนก�รยุติธรรม: ก�รเสริมประสิทธิภ�พ
ด้�นก�รคุ้มครองของผู้ให้ข้อมูล (Whistleblower) ที่เกี่ยวข้องกับก�รทุจริต ก�รกระทำ�ที่ไม่ชอบด้วยกฎหม�ย และก�รใช้อำ�น�จไม่ถูกต้องซึ่งกระทบต่อประโยชน์ส�ธ�รณะ 45
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม
การทุจริตแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ
ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา พุทธศักราช 2542 พระราชบัญญัติ
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 ข้อบังคับ
การประชุมรัฐสภา พุทธศักราช 2544 และข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา
พุทธศักราช 2544 เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่กฎหมายนั้นๆ ได้กำาหนดโทษ
ทางอาญาหากบุคคลนั้นไม่ปฏิบัติตามคำาสั่งของเจ้าหน้าที่ โดยกฎหมาย
ดังกล่าวมิได้มีกฎเกณฑ์ในการให้ความคุ้มครองผู้ถูกเรียกมาให้ข้อมูล
แต่อย่างใด และแม้แต่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน
และปราบปรามการทุจริต พุทธศักราช 2542 ไม่ได้กล่าวถึงเรื่อง
การคุ้มครองผู้ให้ข้อมูลไว้ ดังนั้น หน่วยงานที่จะรับผิดชอบต่อการคุ้มครอง
ผู้ให้ข้อมูลอย่างเป็นทางการจึงยังไม่มี
ในทางปฏิบัตินั้นพบว่ามาตรการให้ความคุ้มครองแก่ผู้แจ้ง
ข้อมูลทุจริตและกระทบต่อประโยชน์สาธารณะขององค์กรกำากับดูแล
เช่น สำานักงาน ป.ป.ช. สำานักงาน ป.ป.ท. สำานักงาน ป.ป.ง. หรือ
คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ไม่มีศักยภาพเพียงพอในการคุ้มครอง
ผู้ให้ข้อมูลและจำาเป็นต้องร้องขอให้หน่วยงานที่มีหน้าที่คุ้มครองพยาน
อันได้แก่ สำานักงานคุ้มครองพยาน (กระทรวงยุติธรรม) กรมคุ้มครอง
สิทธิและเสรีภาพ (กระทรวงยุติธรรม) หรือสำานักงานตำารวจแห่งชาติ
(สตช.) ให้เป็นผู้คุ้มครองผู้แจ้งข้อมูล ทั้งนี้ คคีทุจริตถือเป็นคดีอาญา
ที่ต้องได้รับมาตรการคุ้มครองพิเศษตาม พ.ร.บ. คุ้มครองพยานในคดี
อาญา พุทธศักราช 2546 อย่างไรก็ดี พ.ร.บ. คุ้มครองพยานในคดีอาญา
ก็ยังคงมีช่องว่างสำาหรับการคุ้มครองผู้แจ้งข้อมูลการทุจริต ทั้งนี้ เพราะ
ตาม พ.ร.บ.นี้ นิยามของคำาว่า “พยาน” คือ “พยานบุคคลซึ่งจะมาให้
หรือได้ให้ข้อเท็จจริงต่อพนักงานผู้มีอำานาจสืบสวนคดีอาญา หรือศาล
inside_WhistleBlower_c1(cs5).indd 45 13/2/2562 16:41:39