Page 44 - kpi20764
P. 44
ปัญหาการปรับปรุงกฎหมายที่มีผลใช้บังคับอยู่ตามแนวทางปฏิรูปประเทศไทยตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม: การเสริมประสิทธิภาพ
ด้านการคุ้มครองของผู้ให้ข้อมูล (Whistleblower) ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต การกระทำาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการใช้อำานาจไม่ถูกต้องซึ่งกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ 43
ระบบบริหารงานของภาครัฐให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเพราะได้ทราบ
ถึงข้อบกพร่องในการปฏิบัติงาน อย่างไรก็ตาม การเปิดเผยข้อมูล
เพื่อปกป้องรักษาประโยชน์สาธารณะยังส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
วัฒนธรรมการทำางานภานในองค์กรหรือค่านิยมของคนในสังคม และ
ส่งผลกระทบต่อผู้กระทำาความผิด ผู้มีส่วนได้เสียในเรื่องนั้นๆ ด้วย ทำาให้
ผู้ให้ข้อมูลสุ่มเสี่ยงต่อการถูกแก้แค้น โต้ตอบและข่มขู่คุกคามจากกลุ่ม
บุคคลไม่ว่าจะเป็นเอกชนทั่วไป เจ้าหน้าที่รัฐ อาชญากรหรือองค์กร
อาชญากรรม ในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปโดยก่อให้เกิดความเสียหาย
แก่ชีวิต ร่างกาย เสรีภาพและทรัพย์สินของผู้ให้ข้อมูล หรือบุคคล
ในครอบครัวหรือมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้ให้ข้อมูล หรือการลด
1
ขั้นเงินเดือน การไม่พิจารณาความดีความชอบให้ตามควร จนถึงการให้
ออกจากงาน เป็นต้น ที่ผ่านมากลไกการตรวจสอบของรัฐหรือการสร้าง
ความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาสังคม
ในการต่อต้านการทุจริตนั้นไม่ประสบความสำาเร็จเท่าที่ควร เนื่องจาก
ภาครัฐยังมีความล่าช้าในการปฏิบัติงานอยู่ อีกทั้งยังมีปัญหาที่ไม่สามารถ
คุ้มครองพยานกรณีที่มีประชาชนให้ข้อมูลการทุจริต รวมทั้งขาดแนวทาง
ที่สร้างแรงจูงใจที่จะทำาให้พยานให้ความร่วมมือได้ เนื่องจากพยาน
ผู้ให้ข้อมูลต่างกังวลเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
UN Convention against Corruption มาตราที่ 33 ระบุไว้ว่า
ประเทศที่ลงสัตยาบันต้องดำาเนินการตามโดยให้มีระบบกฎหมายของ
แต่ละประเทศที่เป็นมาตรการที่เหมาะสมในการให้ความคุ้มครองต่อ
1 จากการคุ้มครองพยานตามพระราชบัญญัติคุ้มครองพยานในคดีอาญา พุทธศักราช
2546 เพื่อให้สอดคล้องกับอนุสัญญาสหประชาชาติ เพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ
ที่จัดตั้งในลักษณะองค์กร ค.ศ. 2000 ข้อ 24 (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต) (น.3),
โดย ศิระ รัตตานุกูล, 2549, กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
inside_WhistleBlower_c1(cs5).indd 43 13/2/2562 16:41:39

