Page 322 - kpi20764
P. 322
ปัญหาการปรับปรุงกฎหมายที่มีผลใช้บังคับอยู่ตามแนวทางปฏิรูปประเทศไทยตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม: การเสริมประสิทธิภาพ
ด้านการคุ้มครองของผู้ให้ข้อมูล (Whistleblower) ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต การกระทำาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการใช้อำานาจไม่ถูกต้องซึ่งกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ 321
ประเด็นสุดท้ายคือการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตเพื่อกลั่นแกล้งให้
ผู้ถูกกล่าวหาได้รับความเสียหายนั้น จากการสัมภาษณ์พบว่า มีความ
เป็นไปได้ที่จะพบเห็นการกระทำาเชิงกลั่นแกล้งผู้อื่นเพื่อให้เสื่อมเสีย
หรือได้รับความเสียหาย ซึ่งแนวทางในการแก้ไขปัญหาในทางปฏิบัติ
ที่ผ่านมาพบว่า ทุกหน่วยงานจะต้องมีการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนอย่าง
ละเอียด เพื่อป้องกันการกลั่นแกล้งเสียก่อนว่ามีมูลและน่าเชื่อถือหรือไม่
หากพบกรณีร้องเรียนเพื่อกลั่นแกล้ง แม้ว่าจะมีกฎหมายกลางเรื่องการ
แจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานรับรองเอาไว้อยู่แล้ว แต่หน่วยงานส่วนใหญ่
ในทางปฏิบัติก็ไม่เคยใช้กับผู้ที่แจ้งข้อมูลโดยทุจริตเลย ด้วยกังวลว่า
การเอาผิดกับผู้ที่แจ้งเรื่องร้องเรียนที่ไม่มีมูลเข้ามาจะทำาให้ผู้ที่ต้องการ
แจ้งข้อมูลรู้สึกกลัว และไม่กล้าแจ้งอันเกี่ยวกับการรักษาผลประโยชน์
สาธารณะอีกเลย ทั้งนี้หน่วยงานมีความต้องการที่จะให้ประชาชน
มีความกล้าหาญในการแจ้งเบาะแสของการกระทำามิชอบเหล่านั้น
โดยหน่วยงานจะเป็นผู้ตรวจสอบเองว่าเรื่องร้องเรียนนั้นเป็นไปตามที่
ผู้ร้องเรียนได้แจ้งไว้หรือไม่ ในขณะที่อีกฟากหนึ่งก็มีมุมมองที่เห็นต่าง
ออกไปว่าควรจะต้องดำาเนินคดีและลงโทษผิดวินัยที่เด็ดขาดและรุนแรง
กับผู้ที่แจ้งข้อมูลโดยทุจริตเพราะทำาให้เสียเวลาในการตรวจสอบโดย
ไม่จำาเป็น ทำาให้เรื่องที่สมควรต้องได้รับการตรวจสอบและช่วยเหลือ
ต้องล่าช้าออกไปอีก นอกจากนี้ การลงโทษด้วยการดำาเนินคดีจะทำาให้
ประชาชนจำาเป็นจะต้องหาข้อมูลและตรวจสอบข้อมูลให้ละเอียดถี่ถ้วน
มากขึ้น ก่อนที่จะร้องเรียนเรื่องนั้นๆ อย่างไรก็ตาม จะต้องสร้างความคุ้มกัน
ปกป้องผู้เปิดเผยที่ใช้สิทธิโดยสุจริตแต่อาจเป็นการเข้าใจผิดจากการ
ฟ้องร้องด้วยเช่นกัน หรือเชื่อโดยสุจริตว่าข้อมูลนั้นเป็นความจริง ปราศจาก
เจตนาจะกลั่นแกล้งให้ได้รับความเสียหาย ก็จะไม่ต้องถูกดำาเนินคดี
ซึ่งเจ้าพนักงานจะมีอำานาจวินิจฉัยเบื้องต้นว่าเรื่องร้องเรียนนั้นมีมูล
หรือไม่
inside_WhistleBlower_c4(cs5).indd 321 13/2/2562 16:11:40