Page 320 - kpi20764
P. 320
ปัญหาการปรับปรุงกฎหมายที่มีผลใช้บังคับอยู่ตามแนวทางปฏิรูปประเทศไทยตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม: การเสริมประสิทธิภาพ
ด้านการคุ้มครองของผู้ให้ข้อมูล (Whistleblower) ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต การกระทำาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการใช้อำานาจไม่ถูกต้องซึ่งกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ 319
ของผู้บังคับบัญชาทุกลำาดับชั้นที่ต้องให้ความคุ้มครองและหากผู้ให้ข้อมูล
ยังเห็นว่ามาตรการดังกล่าวไม่เพียงพอก็สามารถร้องขอต่อผู้บังคับบัญชา
ในลำาดับที่สูงขึ้น เพื่อให้กำาหนดมาตรการคุ้มครองให้เพียงพอได้
เนื่องจากยังไม่เคยมีประเด็นที่เกี่ยวกับผู้ใช้เจตนาไม่สุจริตเพื่อ
เป็นช่องทางในการสร้างความเสียหายแก่บุคคลอื่น จึงทำาให้หน่วยงาน
เองไม่มีแนวทางเพื่อปฏิบัติในการแก้ปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น
กล่าวโดยสรุป จากการสัมภาษณ์ทั้งสิ้น 17 ราย พบว่า หน่วยงาน
ของรัฐเกินครึ่งให้ความสำาคัญกับการแจ้งข้อมูลหรือเบาะแส โดยจัดให้มี
ช่องทางเข้าถึงหลายช่องทางที่หลากหลาย ทั้งนี้ อาจจะเป็นเพราะหน่วยงาน
เหล่านั้นมีอำานาจหน้าที่ในการรับเรื่องร้องเรียนและมีการตรวจสอบการ
กระทำาความผิดตามอำานาจหน้าที่ของหน่วยงานนั้นๆ ในขณะที่ภาคอื่นๆ
เช่น ภาคประชาสังคมจะฝังตัวเองอยู่ในพื้นที่เพื่อที่จะส่งเสริมให้ผู้แจ้ง
เบาะแสรับรู้ถึงสิทธิและการคุ้มครองประโยชน์สาธารณะมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ในเรื่องของมาตรการความคุ้มครองสำาหรับผู้แจ้งข้อมูล
หรือเบาะแส พบว่าเกือบทั้งหมดจะมีการรักษาความลับของผู้แจ้งข้อมูล
หรือเบาะแส ไม่ให้ผู้ถูกกล่าวหาได้รับทราบเพื่อป้องกันการโต้ตอบและ
อาจจะมีการประเมินความเสี่ยงและการให้ความคุ้มครองที่เพิ่มขึ้นกรณีที่
อาจจะเกิดการโต้ตอบจากคู่กรณีได้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมา อาศัยทรัพยากรที่จำากัด
ทำาให้หลายๆ หน่วยงานไม่สามารถที่จะดำาเนินการคุ้มครองผู้แจ้งข้อมูล
หรือเบาะแสได้เพียงลำาพัง แต่ต้องพึ่งพาตำารวจเข้ามาสนับสนุนเพราะ
มีทรัพยากรครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ เช่น สถานีตำารวจและนายตำารวจ
เป็นต้น หน่วยงานดังกล่าวจึงเหมาะสมมากกว่าที่จะเข้ามาดูแลและให้
ความคุ้มครองในส่วนนี้
inside_WhistleBlower_c4(cs5).indd 319 13/2/2562 16:11:39