Page 104 - kpi20680
P. 104
80
ในการรับมือกับความเสี่ยงจากราคายางที่ผันผวน กล่าวคือ เกษตรกรต้องปรับตัวโดยการปลูกพืช
ชนิดอื่นแซมในสวนยาง เพื่อสร้างรายได้เสริมและใช้ประโยชน์จากที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพ
จ าเป็นต้องเปลี่ยนกลไลหรือความรู้ให้กับเกษตรกรในภาคใต้ พืชที่สามารถปลูกในสวนยางได้มี
หลายชนิด อาทิ สับปะรด มะละกอ พืชสมุนไพร แต่เกษตรกรต้องค านึงถึง (1) ชนิดของพืชตาม
ความเหมาะสมของดินแต่ละพื้นที่และพืชที่เลือกปลูกสามารถอยู่ร่วมกับยางอายุเท่าไหร่ เนื่องจาก
คุณลักษณะพืชแต่ละชนิดแตกต่างกัน บางชนิดปลูกร่วมกับยางได้เฉพาะยางที่อายุไม่เกิน 3 ปี บาง
ชนิดปลูกร่วมกับยางได้ถึงอายุ 10 ปี (2) ความรู้เกี่ยวกับพืชที่จะปลูก ทั้งในด้านการเพาะปลูก ดูแล
รักษา เก็บเกี่ยว ขยายพันธุ์ และอื่น ๆ เนื่องจากความรู้เหล่านี้จะช่วยลดต้นทุนในการลองผิดลองถูก
และลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากตัวเกษตรกรเอง (3) ทดลองปลูกพืชในแปลงขนาดเล็กก่อน
เพื่อให้มั่นใจว่าพืชชนิดนั้น ๆ สามารถเติบโตได้ในพื้นที่ของเรา และเป็นต้นแบบส าหรับการ
ค านวณผลตอบแทนและความคุ้มค่าในการเพาะปลูก (4) เมื่อทดลองในแปลงขนาดเล็กส าเร็จค่อย
ขยายผลไปสู่แปลงขนาดใหญ่ โดยปรับลดพื้นที่ปลูกยางบางส่วนเพื่อปลูกพืชดังกล่าว การท าเช่นนี้
จะช่วยลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาพืชเชิงเดี่ยว
การอนุรักษ์ป่าพร้อมพัฒนาคนในพื้นที่ภาคใต้เอง โดยเปิดอกาสให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมใน
การจัดการ ดูแล รักษา และใช้ประโยชน์ โดยเริ่มต้นจากการประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจ หา
คุณค่าส าคัญยิ่งกว่านั้น คือการที่เขาร่วมรับรู้ปัญหา ร่วมแก้ไข ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับชาวบ้าน เสมือน
เป็นสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัว ก่อให้เกิดความสัมพันธ์ ความไว้วางใจ ความผูกพันด้านจิตใจ
ภายในชุมชนและระหว่างชุมชนกับเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะป่าชายเลนที่มีมากในพื้นที่ภาคใต้ “คนอยู่
ได้ ป่าอยู่รอด” สู่รูปธรรมของกิจการด้านต่างๆ ทั้งการอนุรักษ์ธรรมชาติ เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา
ในนามของโครงการ “คนอยู่-ป่ายัง” เพื่อแสดงให้ชาวบ้านเห็นว่า ยังมีทางเลือกในการสร้างคุณภาพ
ชีวิตที่ดี และอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างเกื้อกูลกัน
การขับเคลื่อนสังคมไทยสู่อนาคต ที่เปิ ดโอกาสให้ชุมชนมีสิทธิในการดูแลจัดการ
ทรัพยากรธรรมชาติ และสร้างความเข้มแข็ง บนพื้นฐานของการพึ่งพาตนเอง โดยมีหน่วยงานจาก
ภาครัฐเป็นผู้ให้การสนับสนุน ชุมชน ในโครงการ “คนอยู่-ป่ายัง” พิสูจน์ให้เห็นว่าแนวความคิด
เรื่อง “คนอยู่กับป่า” เป็นสิ่งที่เป็นไปได้
(5) กลไกการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
เป็นกลไกหนุนเสริมให้ทุกภาคส่วนได้มีรูปแบบในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เช่น การจัดการทรัพยากรต้นน ้า กลางน ้า ปลายน ้าอย่างสัมพันธ์เกื้อกูลกัน
การพัฒนา “คนอยู่กับป่า” การด าเนินชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชด าริ
พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลที่ 9 การให้ความส าคัญกับการจัดการ