Page 213 - kpi20440
P. 213
การประชุมวิชาการสถาบันพระปกเกล้า 213
ครั้งที่ 20 ประจำาปี 2561
ประชาธิปไตยไทย: ก้าวย่างเพื่อการพัฒนา
1) พระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ก�าหนดให้องค์กรประชาชน ท้องถิ่น
และประชาชนผู้รับบริการทั่วไป เข้ามามีส่วนร่วมในระบบหลักประกันสุขภาพ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคนพิการ
คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้ประกาศ ข้อบังคับคณะกรรมการหลักประกันแห่งชาติ ว่าด้วย
หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไข การขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการ และเครือข่ายหน่วยบริการ มีผลบังคับใช้
ณ วันที่ 5 มีนาคม 2558 โดยจะจัดท�ามาตรฐานกลางส�าหรับหน่วยบริการ ที่ใช้ร่วมกันทั้งหน่วยบริการ
และองค์กรคนพิการ อย่างไรก็ตามจนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีการจัดท�าหลักเกณฑ์ส�าหรับการขอขึ้นทะเบียนเป็น
หน่วยบริการร่วมตามประกาศ
2) พระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2)
พ.ศ.2556 โดยมีสาระ ทั้งในด้านการก�าหนดมาตรการในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต การสร้างกลไก
เพื่อการคุ้มครองคนพิการในเชิงนโยบายไว้ในกฎหมาย เพื่อให้คนพิการได้รับสิทธิและโอกาสการคุ้มครองจากรัฐ
เข้าถึงและใช้ประโยชน์จากบริการต่าง ๆ จากสิ่งอ�านวยความสะดวกอันเป็นสาธารณะ ตลอดจนสวัสดิการ
และความช่วยเหลือจากรัฐ (มาตรา 20) เพื่อให้การก�าหนดมาตรการดังกล่าวเป็นรูปธรรมชัดเจนมากขึ้น ใน
พระราชบัญญัติฉบับนี้จึงก�าหนดให้มีการจัดตั้งศูนย์บริการคนพิการ (มาตรา 20/3,20/4) เพื่อหวังให้เป็น
หน่วยงานที่จะช่วยส่งเสริมโอกาสให้คนพิการเข้าถึงสิทธิและบริการไว้ด้วย โดยมี กองทุนส่งเสริมและพัฒนา
คุณภาพชีวิตคนพิการ เป็นกลไกรองรับเพื่อท�าให้ระบบสิทธิของคนพิการเป็นจริงในระดับปฎิบัติ และแผนพัฒนา
คุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ ฉบับที่ 5 พ.ศ. 2560 – 2564 เป็นกลไกรองรับระดับการบริหารแผน
3) พระราชบัญญัติการจัดการศึกษาส�าหรับคนพิการ พ.ศ. 2551 มาตรา 5 คนพิการมีสิทธิได้รับ
การศึกษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตั้งแต่แรกเกิดหรือพบความพิการจนตลอดชีวิตพร้อมทั้งได้รับเทคโนโลยี สิ่งอ�านวย
ความสะดวก สื่อ บริการและความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษา สามารถเลือกบริการทางการศึกษา สถานศึกษา
ระบบและรูปแบบการศึกษา โดยค�านึงถึงความสามารถ ความสนใจ ความถนัดและความต้องการจ�าเป็นพิเศษ
ของบุคคลนั้น โดยบัญญัติไว้ให้บุคคล ครอบครัว หรือองค์กรในภาคส่วนอื่นนอกเหนือจากรัฐบาลสามารถด�าเนิน
การจัดตั้งศูนย์การเรียนเฉพาะความพิการเพื่อจัดการศึกษานอกระบบและตามอัธยาศัยให้แก่คนพิการได้ อันจะ
เป็นจุดเชื่อมโยงบริการในชุมชนที่คนพิการสามารถเข้าถึงอย่างแท้จริง แต่นับจนถึงปัจจุบันยังไม่ได้มีการด�าเนิน
การให้มีศูนย์การเรียนเฉพาะความพิการขึ้นแต่อย่างใด ทั้งนี้ เนื่องจากข้อขัดแย้งด้านกฎหมายเกี่ยวกับอ�านาจ
ในการจัดตั้งนั่นเอง