Page 215 - kpi20440
P. 215
การประชุมวิชาการสถาบันพระปกเกล้า 215
ครั้งที่ 20 ประจำาปี 2561
ประชาธิปไตยไทย: ก้าวย่างเพื่อการพัฒนา
4) โครงการศึกษาและพัฒนารูปแบบการให้บริการฟื้นฟูบุคคลออทิสติกโดยการมีส่วนร่วมของ
ผู้ปกครอง ผลการวิจัยพบว่า พ่อหรือแม่ของเด็กออทิสติกที่มีส่วนร่วมในการดูแลลูกของตนร่วมกับบ้านทอฝัน
อย่างสม�่าเสมอจะส่งผลดีต่อพัฒนาการของลูกตน กระบวนการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองมี 4 ขั้นตอน ได้แก่
1) การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ 2) การมีส่วนร่วมในการด�าเนินการ 3) การมีส่วนร่วมในการรับผลประโยชน์
และ 4) การมีส่วนร่วมในการประเมินผล ผู้ปกครองที่มีส่วนร่วมทั้งสี่ขั้นตอนมีความรู้ มีความเข้าใจเกี่ยวกับ
ภาวะออทิซึม มีความสนใจใฝ่หาความรู้และใส่ใจในการฝึกฟื้นฟูลูกของตนเองอย่างต่อเนื่อง มีการตั้งเป้าหมาย
ที่สอดคล้องตามศักยภาพของเด็ก มีความเสียสละ อดทน มีทัศนคติที่ดีและมองโลกเชิงบวก ผู้ปกครองได้รับผล
จากการมีส่วนร่วมในเรื่องพัฒนาการของลูกที่ดีขึ้นและผู้ปกครองมีความเครียดลดลง เห็นคุณค่าของตนเอง
รู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม และได้แบ่งปันประสบการณ์ให้กับผู้ปกครองคนอื่น แต่ปัจจัยที่ท�าให้
ผูู้ปกครองบางคนไม่สามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้ครบทุกขั้นตอนคือต้องท�างานเพื่อเลี้ยงตนเองและครอบครัว
การรวมกลุ่มของผู้ปกครองมีความสัมพันธ์กันในแบบ Group Support ผู้ปกครองช่วยเหลือ ให้
ค�าแนะน�าและเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ส่งผลต่อผู้ปกครองในเชิงบวก ท�าให้เกิดการเปลี่ยนแปลงผู้ปกครองมีทัศนคติ
ที่ดี มีความรู้เพิ่มขึ้นจากการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และการมีส่วนร่วมในกระบวนการฟื้นฟูดังกล่าว การเพิ่ม
องค์ความรู้และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองแสดงให้เห็นการลดความเหลื่อมล�้าในการเข้าถึงบริการใน
การฟื้นฟูบุคคลออทิสติกได้อย่างเป็นรูปธรรม
รูปธรรมจากการด�าเนินงานวิจัยของคนพิการส่วนหนึ่งเป็นสิ่งที่ท�าให้เห็นว่ากระบวนการลดความ
เหลื่อมล�้านั้นสามารถสร้างให้เกิดประชาธิปไตยได้อย่างแท้จริง กล่าวคือการให้ความส�าคัญกับผู้คนตัวเล็กๆ ที่
ประสบปัญหาความยากล�าบากให้มี “ส่วนร่วม” ในการจัดการชีวิตของตนเอง การแสดงถึงตัวตน ความเป็นคน
และความต้องการ สิ่งที่จ�าเป็นอย่างยิ่งในโอกาสเช่นนี้คือ หัวใจที่เปิดกว้างให้เกิดการมีส่วนร่วมของคนเล็กคนน้อย
ได้ลุกขึ้นมาเพื่อก�าหนดการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของตนเอง
5. อนำคตประเทศ : เขำวงกตกับกำรนวัตกรรมทำงสังคม
ให้ก้ำวออกจำกกำรผลิตซ�้ำควำมเหลื่อมล�้ำ
การพูดถึงการปฏิรูปประเทศหลายคนคงจะจ�าได้ว่ามีค�าพูดว่า “ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง” แต่ 4 ปีมานี้
เราได้มีโอกาสรู้จักสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และคณะกรรมการ
ปฏิรูปประเทศต่างๆ มาระยะหลังก็มียุทธศาสตร์ชาติและยุทธศาสตร์การปฏิรูปตลอดจนคณะกรรมการต่าง ๆ ซึ่ง
การเคลื่อนไหวปฎิรูปต่าง ๆ ข้างต้น แม้เวลาจะผ่านไป 4 ปี ส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับเอกสารมิใช่การปฏิบัติจริง
ขณะที่เฉพาะหน้าก็มีนโยบายตอบสนองกับการเร่งรัดของปัญหา ภาวะสวนทางและขัดแย้งทางนโยบายระยะสั้น
กับเป้าหมายระยะยาวของความยั่งยืนแบบนี้ ยังเป็นโจทย์ที่ยังท้าทายอยู่ และด้วยสถานการณ์เช่นนี้ประเทศไทย
จึงเหมือนอยู่ในเขาวงกตของการพัฒนาที่ไม่ยั่งยืน นั่นคือหาทางออกไม่ได้