Page 151 - kpi20440
P. 151

การประชุมวิชาการสถาบันพระปกเกล้า    151
                                                                                         ครั้งที่ 20 ประจำาปี 2561
                                                                               ประชาธิปไตยไทย: ก้าวย่างเพื่อการพัฒนา




                          ในบทความนี้ จึงมุ่งส�ารวจแนวคิดดังกล่าวเพื่อให้เห็นหัวใจส�าคัญของสมมติฐานหรือฐานคติ และ

                  พัฒนาการข้อถกเถียงพอสังเขป   ตลอดจนพิจารณาอิทธิพลของแนวคิดดังกล่าวต่อนักรัฐศาสตร์และนักพัฒนา
                                            6
                  ประชาธิปไตยของไทยซึ่งน�าแนวคิดวิธีการมองปัญหาไปสู่ปฏิบัติการ ส�ารวจให้เห็นว่า มีประเด็นถกเถียงอภิปรายต่อ

                  แนวคิดนี้อย่างไร และชี้ให้เห็นว่า Almond และ Verba ก็มีความเปลี่ยนแปลงในกรอบการวิเคราะห์บางประการ
                  ที่ส�าคัญของเขาเองด้วย นั่นคือ การเสนอว่าวัฒนธรรมทางการเมืองสามารถเป็นได้ทั้ง “เหตุ” ที่มีผลระดับ

                  ความเป็นประชาธิปไตย และในทางตรงกันข้ามคือ เป็น “ผล” ที่มาจาก “เหตุ” คือ ความไม่เป็นประชาธิปไตย
                  ของระบอบและโครงสร้างทางการเมืองในสังคมนั้น ๆ ซึ่งน่าจะเป็นประเด็นท้าทายต่อนักพัฒนาประชาธิปไตย

                  นักปฏิรูปการเมืองในสังคมไทยที่ยังหมกมุ่นอยู่กับความพยายามที่จะสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองแบบพลเมือง
                  ให้แก่ประชาชนด้วยการน�าเสนอโครงการอบรม ให้ความรู้ประชาชน ฯลฯ


                          ประเด็นสืบเนื่องประการต่อมา ในบทความนี้ จะกล่าวถึงพัฒนาการของการศึกษาวัฒนธรรมทาง

                  การเมืองของนักวิชาการและนักพัฒนาประชาธิปไตยของไทยเพื่อให้เห็นภาพว่า งานของ Almond และ Verba
                  มีผลต่อการสร้าง “พลเมืองเข้มแข็งจากเบื้องบน” ในสังคมไทยอย่างไรบ้าง และชี้ให้เห็นว่า แนวคิดดังกล่าว

                  ถูกท้าทายรวมทั้งมีฐานคิดและทิศทางในการสร้าง “พลเมืองเข้มแข็งจากเบื้องล่าง” จากประสบการณ์ของ
                  ขบวนการเคลื่อนไหวคนจน คนด้อยโอกาส ด้อยอ�านาจ รวมทั้งภาคประชาสังคมอื่น ๆ ที่มีปฏิบัติการของการ

                  สร้างความเป็นพลเมืองในอีกทิศทางหนึ่ง และน่าจะเป็นทางเลือกของการสร้างพลเมืองที่เข้มแข็ง ที่ส�าคัญคือ
                  ในบทความนี้ต้องการเสนอว่าเราควรมอง “พลเมืองเข้มแข็ง” (ที่ไม่เกิดขึ้นหรือพัฒนาไปได้น้อย)ในฐานะที่เป็น

                  “ผล” ที่มาจาก “เหตุ” ของความไม่เป็นประชาธิปไตยในสังคมการเมืองไทย ที่จะต้องเร่งสร้างเพื่อเป็นเงื่อนไข
                  ให้เกิดขึ้นเสียก่อน ไม่ใช่กล่าวโทษว่าผู้คนเป็นไพร่ไม่มีส�านึกพลเมืองเพราะเหตุจากกระบวนการกล่อมเกลาทาง

                  การเมือง หรือจากค่านิยมในสังคมอันเป็นมรดกตกค้าง ซึ่งจะถกเถียงอภิปรายต่อไป




                  2. ที่มำและพัฒนำกำรแนวกำรศึกษำวัฒนธรรมทำง


                  กำรเมือง” และอิทธิพลต่อกำรสร้ำง “พลเมืองเข้มแข็ง”




                          ม.ร.ว.พฤทธิสาณ ชุมพล   เปรียบเทียบการศึกษาแนววัฒนธรรมทางการเมือง กับแนววิเคราะห์เชิง
                                               7
                  โครงสร้าง-สถาบัน ซึ่งเป็นแนวการวิเคราะห์ที่มีอยู่ก่อนเอาไว้อย่างเห็นภาพว่า การศึกษาเชิงโครงสร้าง-สถาบัน






                  6   มีงานเขียนจ�านวนมากที่กล่าวถึงแนวคิดของ Grabreil A. Almond และ Sidney Verba  โปรดดู ประภาส

                  ปิ่นตบแต่ง, “วัฒนธรรมทางการเมืองกับการเมืองการปกครองไทย” ใน สาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัย
                  ธรรมาธิราช.เอกสารชุดวิชาหลักพื้นฐานการเมืองการปกครองไทย (หน่วยที่ 11) (กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์
                  มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2560)
                  7   พฤทธิสาณ ชุมพล, ม.ร.ว., ระบบการเมือง : ความรู้เบื้องต้น (กรุงเทพมหานคร : ส�านักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์
                  มหาวิทยาลัย พิมพ์ครั้งที่ 9 ฉบับปรับปรุงเพิ่มเติม, 2550)
   146   147   148   149   150   151   152   153   154   155   156