Page 62 - kpi19903
P. 62
36
ที่มีค่าความน่าจะเป็นสูงสุด ขอให้สังเกตโค้งความน่าจะเป็นที่จะเกิดเหตุการณ์แต่ละเหตุการณ์ในตัวแบบ
วิเคราะห์ถดถอยโลจิสติกพหุนามในรูปที่ 3.2 เมื่อผลรวมเชิงเส้นของตัวแปรพยากรณ์ในแกนนอนมีค่าน้อย ๆ
เช่น -5.00 ค่าความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ที่หนึ่ง p(Y=1) จะมีค่าสูงสุด เราจึง assign ให้กรณีนี้เป็น
เหตุการณ์ที่หนึ่ง ในขณะที่เมื่อผลรวมเชิงเส้นของตัวแปรพยากรณ์ในแกนนอนมีค่าปานกลาง เช่น ค่าความ
น่าจะเป็นของเหตุการณ์ที่สอง p(Y=2) จะมีค่าสูงสุด เราจึงจ าแนกกรณีนี้เป็นเหตุการณ์ที่สอง และในกรณีที่
ผลรวมเชิงเส้นของตัวแปรพยากรณ์มีค่าสูง ๆ เช่น 5.00 ค่าความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ที่สาม p(Y=3) จะมี
ค่าสูงสุด เราจึงจ าแนกกรณีนี้ออกเป็นเหตุการณ์ที่สาม
Category Response Curve
1
0.9
0.8
0.7
0.6
0.5
0.4
0.3
0.2
0.1
0
-5.00 -2.50 0.00 2.50 5.00
P(Y=1) P(Y=2) P(Y=3)
รูปที่ 3.2 โค้งความน่าจะเป็นที่จะเกิดเหตุการณ์แต่ละเหตุการณ์ในตัวแบบวิเคราะห์ถดถอยโลจิสติกพหุนาม
(J=3)
การทดสอบว่าค่าสัมประสิทธิ์มีนัยส าคัญทางสถิติหรือไม่ โดยมีสมมุติฐานว่างว่า H 0 : หรือ
0
jp
H 0 :e jp 1 และสมมุติฐานแย้งว่า H a : หรือ H a :e jp 1 ในกรณีของตัวแปรต่อเนื่องหรือ
0
jp
Interval scale of measurement ขึ้นได้สามารถใช้ค่าค่าสถิติทดสอบ Wald test ซึ่งใช้ทดสอบค่า
สัมประสิทธิ์หรืออัตราส่วนแต้มต่อส าหรับแต่ละตัวแปรของแต่ละกลุ่ม มีการแจกแจงแบบ ไค-สแควร์ ที่องศา
อิสระเท่ากับหนึ่ง และมีค่าพารามิเตอร์ที่ต้องการทดสอบทั้งหมด J-1 ค่า ส าหรับหนึ่งตัวแปรพยากรณ์
ส่วนในกรณีที่ตัวแปรพยากรณ์เป็นตัวแปรจัดประเภทที่มี k ระดับ ต้องมีการสร้างตัวแปรหุ่นเท่ากับ k-
1 ตัวแปร ในการสร้างตัวแบบจะมีค่าสัมประสิทธิ์ เท่ากับ (จ านวนประเภท-1)*(จ านวนกลุ่ม-1) การทดสอบว่า
ตัวแปรใดมีนัยส าคัญทางสถิติไม่อาจจะท าได้โดยตรงต้องใช้การทดสอบอัตราส่วนภาวะน่าจะเป็น (Likelihood