Page 51 - kpi19903
P. 51

25



               นอกจากนี้การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 2004 ก็พบว่าอัตราการว่างงานที่สูงขึ้นมีการ
               สัดส่วนในการเลือกผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันน้อยลง ในขณะที่ผู้ที่ท างานเกี่ยวกับเกษตรกรรม (Agriculture)

               และอุตสาหกรรม (Manufacturing) มีแนวโน้มที่จะเลือกผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันสูงขึ้น (Wing & Walker,

               2010)
                       การศึกษาพฤติกรรมการเลือกตั้งของไทย ปี 2550 พบว่า รายได้ครัวเรือนตัวแปรที่สามารถอธิบาย

               การเกิดขึ้น เพิ่มขึ้น หรือลดลงของระดับความนิยมของพรรคการเมืองและหัวหน้าพรรคการเมืองเกือบทุก

               พรรค แต่ทิศทางและขนาดของความสัมพันธ์นั้นก็แตกต่างไปในแต่ละพรรค คนที่มีความนิยมพรรคพลัง
               ประชาชนเป็นคนที่อาศัยอยู่ในครัวเรือนที่มีระดับรายได้ครัวเรือนไม่สูง ในขณะที่คนที่อาศัยอยู่ในครัวเรือนที่มี

               ระดับรายได้ครัวเรือนสูงมีแนวโน้มที่จะไม่นิยมในพรรคนี้

                       ในตรงกันข้ามคนที่อาศัยอยู่ในครัวเรือนที่มีระดับรายได้ครัวเรือนสูง จะแสดงความนิยมในระดับที่สูง
               ต่อพรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์ และคนที่อาศัยอยู่ในครัวเรือนที่มีระดับรายได้ครัวเรือนต่ า จะไม่ชื่น

               ชอบในพรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์ในระดับที่สูง เช่นเดียวกับกลุ่มคนที่จะมีแนวโน้มที่จะแสดงความ

               ชื่นชอบพรรคมัชฌิมาธิปไตยนั้น จะเป็นคนที่อาศัยอยู่ในครัวเรือนที่มีระดับรายได้ครัวเรือนที่สูง ในส่วนของ
               แนวโน้มที่จะชื่นชอบนายบรรหารก็เป็นคนที่อยู่ในครอบครัวที่มีระดับรายได้ครัวเรือนที่สูง ส่วนคนที่อาศัยอยู่

               ในครอบครัวที่มีรายได้ครัวเรือนไม่สูงมากมีแนวโน้มที่จะไม่เลือกพรรคชาติไทย (อรรถสิทธิ์ พานแก้ว, 2556a)

                       ในแง่ของการใช้สิทธิเลือกตั้ง คนที่อยู่ในครอบครัวที่มีรายได้ในระดับต่ ามีแนวโน้มที่จะออกไปใช้สิทธิ
               เลือกตั้งมากกว่าคนที่อยู่ในครอบครัวที่มีระดับรายได้สูง (อรรถสิทธิ์ พานแก้ว, 2556a) มูลนิธิเอเชีย ได้ส ารวจ

               ข้อมูลจากผู้เข้าร่วมชุมนุมกับ นปช. และผู้เข้าร่วมชุมนุมกับ กปปส. ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2556 พบว่าโปร

               ไฟล์ของผู้เข้าร่วมชุมนุมกับ กปปส. มีฐานะทางสังคม เศรษฐกิจและการศึกษาสูงกว่า นปช. (The Asia
               Foundation, 2013a, 2014)

                       การศึกษาต่างประเทศก็พบความแตกต่างของพฤติกรรมการเลือกตั้งอันเนื่องมาจากปัจจัยทางด้าน

               เศรษฐกิจสังคมเช่นเดียวกัน การวิเคราะห์ผลการเลือกตั้งใน 36 ประเทศทั่วโลก พบว่ากลุ่มคนที่มีรายได้มาก
               หรือคนรวยจะมีแนวโน้มที่จะเลือกพรรคสังคมนิยม (Conservative party) มากกว่ากลุ่ม  คนที่มีรายได้ต่ า

               หรือคนจน เช่นเดียวกับการศึกษารายได้ (Income) กับผลของการเลือกตั้งของแต่ละรัฐในประเทศ

               สหรัฐอเมริกา Andrew Gelman รายงานว่ารายได้มีผลต่อการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง โดย   ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
               ที่มีรายได้สูงหรือคนรวยมีแนวโน้มที่จะเลือกพรรครีพับลิกัน (Republican) ส่วนคนที่มีรายได้ต่ าหรือคนจนมี

               แนวโน้มที่จะเลือกพรรคเดโมแครต (Democrats) ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากนโยบายของผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง (A

               Gelman, 2010) การศึกษาการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 2004 พบว่าครัวเรือนในรัฐ
               ที่มีรายได้ระดับปานกลางมีแนวโน้มที่จะเลือกผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน (Republican) แต่ครัวเรือนที่มีราย

               ปานกลางระดับสูงมีแนวโน้มที่จะเลือกผู้สมัครจากพรรครีพับริกันน้อยลง อย่างไรก็ตามครัวเรือนที่มีรายได้อยู่

               ในระดับสูงมีแนวโน้มที่จะเลือกผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันเพิ่มขึ้น (Wing & Walker, 2010)
   46   47   48   49   50   51   52   53   54   55   56