Page 55 - kpi19903
P. 55
29
measures) แต่อย่างใด ท าให้ไม่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลระยะยาว (Longitudinal data analysis) ได้โดยตรง
การเก็บข้อมูลใช้การสัมภาษณ์โดยพนักงานสนาม
งานวิจัยนี้เป็นการน าข้อมูลทุติยภูมิดังกล่าวมาวิเคราะห์ใหม่ (Re-analysis) ทั้งนี้งานวิจัยนี้ได้ใช้ข้อมูล
จากการส ารวจด้วยตัวอย่างเฉพาะก่อนการเลือกตั้งเป็นหลัก เพราะต้องการสร้างตัวแบบพยากรณ์จึงควรใช้
ข้อมูลก่อนการเลือกตั้ง ไม่เช่นนั้นจะเป็นการพยากรณ์ย้อนอดีตซึ่งไม่สมเหตุสมผลเท่าที่ควร
แบบสอบถาม (ก่อนการเลือกตั้ง) แบ่งออกเป็น 13 ส่วนดังนี้ A. ทิศทางสู่การเลือกตั้ง B. ความรู้ความ
เข้าใจในทางการเมือง C. ปัจจัยในการเลือกผู้สมัคร D. ปัจจัยในการเลือกพรรค E. ผลงานของรัฐบาล F. การ
ประเมินทางเศรษฐกิจ G. วัฒนธรรมทางการเมือง H. ทิศทางสู่ประชาธิปไตย I. พื้นฐานทางวัฒนธรรม J. เรื่อง
การเป็นพลเมือง (ความรับผิดชอบต่อสังคม) K. การรับรู้ของประชาชนเรื่อง ภาษีอากรและการคลัง
การงบประมาณภาครัฐ L. ทัศนคติทางการคลังของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง M. เรื่องสถิติประชากร รวม
ทั้งสิ้น 104 ข้อหรือ 26 หน้า A4
ส าหรับตัวแปรในการศึกษาได้เลือกสรรมาบางตัวแปรดังนี้
1.ตัวแปรทางประชากร ได้แก่ เพศ อายุ ศาสนา
2.ตัวแปรสถานภาพทางสังคมและเศรษฐกิจ ได้แก่ ระดับการศึกษา อาชีพ ระดับรายได้
3. ตัวแปรภูมิภาคที่อยู่อาศัยและถิ่นที่อยู่อาศัย ได้แก่ ภูมิภาคที่อยู่อาศัย โดยแบ่งเป็นภาค ต่าง ๆ
และกรุงเทพมหานคร ส่วนถิ่นที่อยู่อาศัยแบ่งเป็นกลุ่มชนบทและเมืองขนาดเล็ก กับกลุ่มเมืองขนาดใหญ่และ
ชานเมืองขนาดใหญ่
4. ความนิยมในพรรคการเมืองและหัวหน้าพรรคการเมืองวัดจากคะแนนความคิดเห็นในการเลือก
พรรคและหัวหน้าพรรค เพื่อเป็นตัวแทนที่ผู้ลงคะแนนเลือกเข้าไปท าหน้าแทนในรัฐสภา
5. ความเชื่อมั่นต่อพรรคการเมืองและหัวหน้าพรรคการเมือง
6. ผลประเมินผลการท างานของรัฐบาลรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลชุดก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง วัดจาก
ระดับความพึงพอใจต่อการท างานของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
7. ตัวแปรที่ได้จากการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงบุกเบิก (Exploratory Factor Analysis) อันได้แก่
ปัจจัยที่ส าคัญในการเลือกผู้สมัคร ปัจจัยที่ส าคัญในการเลือกพรรคการเมือง
8. ตัวแปรเชิงพฤติกรรม ได้แก่ ความคาดหวังที่ผู้สมัครจะชนะเลือกตั้ง (Outcome expectation)
และการมีตัวแทนความคิดทางการเมือง (Political Ideology)
การลงคะแนนเสียงของผู้มีสิทธิ์ทั้งในระบบแบ่งเขตและแบบสัดส่วนเป็นตัวแปรตาม โดยมีตัวเลือก
ของการเลือกตั้ง (Voting choice) โดยเนื่องจากการแจกแจงของตัวเลือกของการเลือกตั้งเป็นการแจกแจงมัล
ติโนเมียล (Multinomial distribution) ซึ่งเป็นตัวแปรจัดประเภท ทั้งนี้ผลการเลือกตั้งของไทยมีการแบ่งขั้ว
ทางการเมือง (Political polarization) อย่างชัดเจนแบ่งออกเป็นสองขั้ว ท าให้ตัวเลือกของการเลือกตั้งแบ่ง
ออกเป็นพรรคในระบอบทักษิณ คือ พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ และมีพรรคการเมืองอื่น ๆ ซึ่งมี
