Page 35 - kpi19903
P. 35

9



               ตัดสินใจ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อในสังกัดของพรรคการเมืองที่ชื่นชอบนั่นเอง ส่วนที่ว่าพรรคใดจะได้ ส.ส. แบบ
               บัญชีรายชื่อจ านวนเท่าใดก็ขึ้นกับว่าพรรคนั้น ๆ จะได้รับคะแนนเป็นจ านวนมากน้อยเท่าใด โดยผู้ที่จะได้รับ

               เลือกตั้งต้องมาจากบัญชีรายชื่อเรียงตามล าดับจนกว่าจะครบจ านวน ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมือง

               ได้รับ (ส านักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง, 2554a, 2554b)


                       2.1.3 การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของไทยในอนาคตอันใกล้

                       รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 (ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่ม 134 ตอนที่
               40 ก หน้า 22-30 วันที่ 6 เมษายน 2560) ส.ส. ก าหนดให้มีจ านวน 500 คน มาจากการเลือกตั้ง 2 แบบ ได้แก่

                       ส.ส. แบบแบ่งเขต มีจ านวน 350 คน คือ ส.ส. ที่มาจากเขตเลือกตั้งโดยการแบ่งเขตเลือกตั้ง  ทั่ว

               ประเทศออกเป็น 350 เขต ในแต่ละเขตเลือกตั้งมี ส.ส. ได้ 1 คน ผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุดและมีคะแนนสูงกว่า
               คะแนนเสียงไม่เลือกผู้ใดเป็นผู้ได้รับเลือกเป็น ส.ส.

                       ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ มีจ านวน 150 คน โดยพรรคการเมืองจะต้องจัดท าบัญชีรายชื่อพรรคละหนึ่ง

               บัญชี ซึ่งรายชื่อไม่ซ้ ากับรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขต ส่งให้กรรมการการเลือกตั้งก่อนปิดการรับ
               สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง การลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน

               ราษฎรแบบบัญชีรายชื่อใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวกันกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต

               เลือกตั้ง
                       ส.ส. มีวาระ 4 ปี นับตั้งแต่วันเลือกตั้ง ในกรณีที่ต าแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่างลงไม่ว่าด้วยเหตุ

               ใด และยังไม่มีการเลือกตั้งหรือประกาศชื่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขึ้นแทนต าแหน่งที่ว่าง ให้สภา

               ผู้แทนราษฎร ประกอบด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเท่าที่มีอยู่ ในกรณีมีเหตุใด ๆ ที่ท าให้สมาชิกสภาผู้แทน
               ราษฎรแบบบัญชีรายชื่อมีจ านวนไม่ถึงหนึ่งร้อยห้าสิบคน ให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ

               ประกอบด้วยสมาชิกเท่าที่มีอยู่


               2.2 แนวคิดเกี่ยวกับพฤติกรรมกำรเลือกตั้ง

                       ในส่วนนี้จะได้น าเสนอ การจัดประเภททฤษฎีการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ทฤษฎีสองนครา
               ประชาธิปไตย ทฤษฎีการแพร่กระจายนวัตกรรม ส าหรับทฤษฎีสองนคราประชาธิปไตย เป็นทฤษฎีที่สร้าง

               ขึ้นมาเพื่ออธิบายการเมืองไทยโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นทฤษฎีที่ได้รับการกล่าวถึงอย่างแพร่หลาย ส่วนทฤษฎีการ

               แพร่กระจายนวัตกรรมนั้น ช่วยอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้นโยบายสาธารณะ (Public policy) กับ
               ผลการเลือกตั้งได้ค่อนข้างดี เพราะนโยบายสาธารณะนั้นจัดว่าเป็นนวัตกรรมทางสังคม (Social innovation)

               อย่างหนึ่ง และพรรคไทยรักไทยน่าจะเป็นพรรคการเมืองแรกที่น าเสนอนโยบายสาธารณะต่อประชาชนในการ

               หาเสียงและในภายหลังพรรคการเมืองอื่น ๆ ก็ท าตามและน่าจะมีผลกระทบกับผลการเลือกตั้งของไทยมาก
               พอสมควร
   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40