Page 34 - kpi19903
P. 34

8



                       2.1.2 ความหมายของการเลือกตั้ง
                       การเลือกตั้ง (Election) เป็นเงื่อนไขที่ส าคัญที่สุดประการหนึ่งของการปกครองในระบอบ

               ประชาธิปไตย เพราะการเลือกตั้งเป็นการแสดงออกซึ่งเจตนารมณ์ของประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศในอันที่

               จะมอบความไว้วางใจในตัวแทนของปวงชนไปใช้อ านาจแทนตน การออกเสียงเลือกตั้งเป็นสิทธิขั้นมูลฐานของ
               มนุษย์โดยเฉพาะในสังคมประชาธิปไตยอันจะเห็นได้เด่นชัดจากบทบัญญัติข้อ 21(1)  แห่งปฏิญญาสากลว่า

               ด้วยสิทธิมนุษยชน (Universal Declaration of Human Rights) สรุปใจความส าคัญได้ว่า “เจตจ านงของ

               ประชาชนย่อมเป็นมูลฐานแห่งอ านาจของรัฐบาลผู้ปกครองเจตจ านงดังกล่าวต้องแสดงออกโดยการเลือกตั้งอัน
               สุจริต ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งคราวตามก าหนดเวลาด้วย

                       การลงคะแนนเสียงของชายหญิง โดยถือหลักคนละหนึ่งเสียงเท่ากันและกระท าเป็นการลับด้วยวิธีการ

               อื่นใดที่จะรับประกันในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง เป็นไปโดยเสรี (กระมล ทองธรรมชาติ, 2531)
                       ทั้งนี้ในประเทศไทยเคยมีการเลือกตั้งทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา ตลอดจนการ

               เลือกตั้งส าหรับการปกครองส่วนท้องถิ่นแต่การศึกษานี้จะจ ากัดขอบเขตในการศึกษาเพียงการเลือกตั้ง

               สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของไทย


                       2.1.2 การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งล่าสุดของไทย

                       รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 1) พุทธศักราช 2554 (ประกาศในราชกิจจา
               นุเบกษา เล่ม 128 ตอนที่ 13 ก หน้า 7 วันที่ 4 มีนาคม 2554) ก าหนดให้ ส.ส. มีจ านวน 500 คน มาจากการ

               เลือกตั้ง 2 แบบ ได้แก่ ส.ส. แบบแบ่งเขต จ านวน 375 คน และ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ จ านวน 125 คน

                       ส.ส. แบบแบ่งเขต คือ ส.ส. ที่มาจากเขตเลือกตั้งโดยการแบ่งเขตเลือกตั้งประเทศออกเป็น 375 เขต
               เกิดจากการค านวณราษฎรทั้งประเทศตามหลักฐานทะเบียนราษฎร ที่ประกาศปีสุดท้ายก่อน ปีที่มีการเลือกตั้ง

               เฉลี่ยด้วยจ านวน ส.ส. 375 คน เช่น ราษฎรทั้งประเทศ จ านวน 63,878,267 ล้านคน หารด้วย 375 ก็จะได้
               ค่าเฉลี่ยราษฎร 170,342 คน ต่อ ส.ส. 1 คน หลักการนี้มาจากเหตุผลที่ว่า แต่ละเขตเลือกตั้งควรมี ส.ส.

               จ านวนเท่าเทียมกันโดยประชาชนหนึ่งคนมีหนึ่งเสียงเท่ากัน มีความเสมอภาคกัน ไม่ว่าจะมีภูมิล าเนาอยู่ใน

               พื้นที่ใด หรือจะยากดีมีจน เป็นชาวไร่ ชาวนา หรือเศรษฐีก็มีสิทธิที่เท่าเทียมกัน การลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.
               แบบแบ่งเขตให้ท าเครื่องหมาย x กากบาทเลือกได้เพียงหมายเลขเดียวหรือเบอร์เดียว ดังที่เรียกว่า “เขตเดียว

               เบอร์เดียว”

                       ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ คือ ส.ส. ที่มาจากการเลือกตั้งในแบบบัญชีรายชื่อ โดยพรรคการเมืองที่ส่ง
               ผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อจะจัดท าบัญชีรายชื่อผู้สมัครไว้เพียงบัญชีเดียว เรียงล าดับจ านวนไม่เกิน 125

               รายชื่อ รายชื่อใครจะอยู่ล าดับใดนั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละพรรคจะด าเนินการ การเลือกตั้งแบบนี้ถือประเทศเป็นเขต

               เลือกตั้ง หมายถึง ทั้งประเทศจะมีผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อชุดเดียวกัน
                       การลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ให้ท าเครื่องหมาย กากบาท (X) เลือกพรรคการเมืองใด

               พรรคการเมืองหนึ่งเพียงพรรคเดียว ได้เพียงหมายเลขเดียว หรือเบอร์เดียว นั่นก็หมายถึง ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งได้
   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39