Page 90 - kpi18630
P. 90
ต�ารวจต้องรู้ ต้องเข้าใจ และต้องใช้กฎหมายให้เป็น ผมสมัครเรียนนิติศาสตร์รามฯ
ไว้สามปีแล้ว ก่อนจะโดนย้ายไปอยู่ที่โน่นเสียอีก แต่ผมเงียบๆ ไม่อยากบอกให้
ใครรู้แม้แต่เพื่อนร่วมงาน ซื้อต�ารับต�ารารวมทั้งชี้ตสรุปค�าบรรยายมาศึกษาด้วย
ตัวเอง ถึงเวลาสอบก็ไปสอบ นี่ก็เกือบจบแล้ว ยังต้องเก็บหน่วยกิตที่เหลืออีกไม่
กี่หน่วย”
ผมเองก็เพิ่งจะทราบเรื่องนี้เมื่อไม่นานนัก ความจริงพ่อไม่ได้บอกคนใน
ครอบครัวด้วยซ�้า แต่ผมนึกแปลกใจที่เห็นพ่อถือต�ารากฎหมายติดตัวอยู่เสมอ บางที
นั่งท่องมาตราต่างๆ จากประมวลกฎหมายแพ่งและอาญางึมง�าอยู่คนเดียว อดนึก
ชื่นชมในความมานะบากบั่นของพ่อไม่ได้ มันเกิดมาจากแรงบีบคั้นอันใดอันหนึ่งหรือ
มีเป้าหมายอะไรสักอย่างที่ท�าให้พ่อเอาจริงเอาจังถึงขนาดนั้น
“จะสู้พวกเด็กๆ ไหวหรือหมวด” ลุงเดชถามเพื่อหยั่งเชิงแกมหยอกเย้า
“อายุก็มากแล้ว”
“เรื่องอายุผมว่าไม่ส�าคัญ บางคนห้าสิบหกสิบ ยังเรียนกันเลย ส่วนมาก
เป็นพวกมีงานท�า หาเงินด้วยเรียนด้วย ของอย่างนี้มันขึ้นอยู่กับความตั้งใจนะครับ
มันยากก็จริงแต่เรียนแล้วสนุก มีแง่มุมต่างๆ ของกฎหมายอีกเยอะแยะที่เรายังไม่รู้
ผมสอบเก็บสะสมหน่วยกิตไปเรื่อยๆ ตกบ้างเป็นธรรมดา คิดเสียว่าเรียนไปปฏิบัติ
งานไปในฐานะเป็นเจ้าพนักงานสอบสวน วิชาไหนสอบไม่ผ่านก็ลงทะเบียนเรียน
ใหม่” พ่อวางแผนการเรียนรู้ตามก�าลังสติปัญญาของตัวเอง คนวัยสี่สิบห้าอย่างพ่อ
จะให้สมองเฉียบแหลมคมกริบเหมือนคนหนุ่มๆ คงเป็นไปไม่ได้ แต่พ่อเอาลูกขยัน
เข้าว่า
หลังจากพ่อกลับไปนครนายกเพียงไม่กี่วัน มีกลุ่มเด็กวัยรุ่นมาเล่นฟุตบอล
กันที่สนามของสวนหย่อมตามปกติในตอนเย็น วันนั้นผมเห็นเด็กวัยรุ่นแปลกหน้าสี่
ห้าคนจากข้างนอกมาสมทบกับเด็กในหมู่บ้าน บางคนขี่มอเตอร์ไซค์ซ้อนท้ายกันมา
พร้อมส่งเสียงโว้กว้ากโวยวายได้ยินไปถึงบ้านผม พอเอารถจอดใต้ร่มไม้พวกเขาก็
แบ่งข้างออกเป็นสองฝ่าย คนหนึ่งโยนลูกฟุตบอลที่ถือมาลงไปกลางสนาม คนที่จับ
89
ʶҺѹ¾Ãл¡à¡ÅŒÒ
01-288 Power of Thai People_Edit.indd 89 21/3/2561 BE 10:00