Page 92 - kpi18630
P. 92
“พ่อก็บอกผมให้จับตาเด็กกลุ่มนี้เอาไว้บ้าง ดีไม่ดีมันแฝงตัวเข้ามาดูลาดเลา
แล้วขโมยทรัพย์สินของคนในหมู่บ้าน เราต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย ผมว่าลุงคิด
ถูกแล้วที่ไม่ท�าอะไรรุนแรงลงไปเมื่อตะกี้ ไม่ยังงั้นเรื่องคงยาวแน่ เพราะดูท่าทาง
แต่ละคนกุ๊ยๆ กวนๆ ”
หลังจากเราสองคนช่วยกันเก็บเศษกระเบื้องดินเผาของกระกระถางต้นไม้
ใบนั้นไปใส่ในถังขยะเรียบร้อยแล้ว ต่างคนต่างก็เดินกลับเข้าบ้านตัวเอง ไม่อยากเอา
เรื่องหงุดหงิดใจมาเก็บไว้ในสมอง
พ่อกลับมาบ้านอีกครั้งในอาทิตย์ถัดมา ความทุกข์ใจเกี่ยวกับเรื่องน�้าท่วม
ค่อยคลายความกังวลลงไปบ้างแล้ว เพราะฝนเริ่มจางหาย ความหนาวของอากาศ
เริ่มแผ่ลงมาครอบคลุมติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน ลุงเดชมานั่งปรับทุกข์กับพ่อเกี่ยว
กับเรื่องกลุ่มวัยรุ่นที่ชักชวนเพื่อนข้างนอกมาเล่นกันในสนามของสวนหย่อมและ
สร้างความเสียหายให้เกิดแก่ทรัพย์สินบางอย่าง พ่อนั่งฟังลุงเดชพูดอย่างสงบ พลาง
ครุ่นคิดอย่างสุขุมรอบคอบและออกความเห็นไปว่าหากห้ามไม่ให้ใครมาเล่นเสียที
เดียวก็คงท�าไม่ได้ เพราะการเล่นกีฬาเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ เด็กๆ ส่วนใหญ่ก็ชอบ
ออกก�าลังกายด้วยการเล่นกีฬากันทั้งนั้น แต่เมื่อเล่นแล้วก็ควรระมัดระวังกระถาง
ต้นไม้หรือข้าวของอย่างอื่นที่อยู่รอบๆ สนามด้วย และที่ส�าคัญคือสวนหย่อมใน
หมู่บ้านไม่ใช่เป็นแหล่งมั่วสุมที่ใครๆ จะมาท�าอะไรก็ได้
หลังจากนั้นลุงเดชได้ใช้เวลาว่างของแกไปพูดคุยกับพ่อแม่ผู้ปกครองของ
เด็กบางคนให้เข้าใจในปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดและจะหาทางแก้ไขกันอย่างไร หลาย
คนเห็นด้วย และรับปากว่าจะช่วยดูแลลูกหลานของตัวเองให้อยู่ในกรอบวินัย เช้า
วันหนึ่งขณะที่ลุงเดชรดน�้าต้นไม้อยู่ในสวนหย่อม แกต้องพบกับความแปลกใจเมื่อ
มาเห็นกระถางดินเผาใหม่เอี่ยมอ่องถูกน�ามาวางตั้งไว้บนแท่งปูนดังเดิม แม้ว่าข้าง
ในจะไม่มีต้นเฟื่องฟ้าก็ตามที แค่นั้นมันก็ท�าให้ลุงเดชอิ่มอกอิ่มใจพอแล้วกับการมี
จิตส�านึกอันดีงามด้วยการซื้อกระถางมาทดแทนกระถางใบเก่าที่เสียหายไป
ช่วงหลังพ่อยังคงคร�่าเคร่งอยู่กับกฎหมายจนแทบไม่ออกไปเปิดหูเปิดตา
ที่ไหนเลย ผมเห็นพ่อ กลับมาบ้านทีไรยังหอบต�ารากฎหมายกองโตมานั่งอ่านจน
91
ʶҺѹ¾Ãл¡à¡ÅŒÒ
01-288 Power of Thai People_Edit.indd 91 21/3/2561 BE 10:00