Page 246 - kpi18630
P. 246
ตอนนั้นผมให้ลูกชายเอาตะกร้าทรงสี่เหลี่ยมตื้นๆ ไปช่วยเคลื่อนย้ายสาม
ชีวิตที่เหลือ ก่อนใช้ผ้านุ่มๆ รองพื้นกันหนาว
แต่เมื่อพ้นผ่านน�้าใหญ่ครั้งที่สองนั่นเอง ผมกลับต้องเกลียดอีขาวจนเข้า
กระดูก เมื่อแม่ให้พามันไปเฝ้าบ้านของญาติคนหนึ่ง เราจึงต้องขนเอาลูกของมันไป
ด้วย บ้านหลังนั้นไม่ได้ไกลจากบ้านเรามากนัก เพียงแต่ต้องข้ามถนนสายเอเชียไป
เท่านั้น เขาบอกจะไปต่างจังหวัดไม่กี่วัน กลัวขโมยขึ้นบ้าน และหมาของเขาก็เพิ่ง
ถูกวางยาตายไปก่อนหน้านี้ แต่เรื่องกลายเป็นว่า เมื่อเราไปถึงที่นั่น และล่ามอีขาว
ไว้กับโคนเสาใกล้บันไดขึ้นบ้าน มันกลับเอาแต่ดิ้น ไม่ยอมอยู่ยามให้ท่าเดียว แม้จะ
มีลูกๆ อยู่เคียงข้าง มีข้าวให้กินวันละสองมื้อแล้วก็ตาม เช้าต่อมา เราเข้าไปพบว่า
เชือกปลอกคอได้บาดมันจนเป็นแผลลึก
ระหว่างนั้น ผมกับลูกชายต้องผลัดเปลี่ยน ขี่มอเตอร์ไซค์ข้ามถนนสี่เลน
เพื่อไปให้ข้าวน�้า เอายาไปทาแผล ก่อนตัดสินใจปล่อยให้เป็นอิสระ แต่จนแล้วจน
รอดมันก็ยังวิ่งตามเรากลับบ้านอยู่ดี ไม่สนใจแม้กระทั่งลูกๆ ที่ยังเล็ก ผมเริ่มเกลียด
มันตั้งแต่ตอนนั้น และยืนยันกับแม่ว่าค�ากล่าวอ้างแต่โบร�่าโบราณนั้น ใส่ร้ายชิงชัง
หญิงทิ้งลูกจนเกินไป
“ เห็นไหม.. ที่ว่าหมามันยังรักลูก แล้วอีขาวเป็นยังไง”
คราวนี้แม่ไม่เถียงสักค�า แต่กลับสงสารบรรดาลูกหมา อยากให้ญาติคนนั้น
กลับมาโดยเร็ว วันนั้นผมกับลูกชายต้องอุ้มมันขึ้นมอเตอร์ไซค์ไปส่งอีกรอบ และ
ระหว่างที่มันวิ่งไล่หลังตามกลับมาอีก เราต้องจอดรถลงไปตะเพิดมัน ทั้งหาท่อนไม้
และก้อนดินมาเป็นตัวช่วย
แต่สุดท้ายในวันรุ่งขึ้น อีขาวก็ยอมเสี่ยงตาย ข้ามถนนกลับมาบ้านเรา
จนได้ และทิ้งพวกลูกๆ ให้เผชิญชะตากรรมอยู่ข้างหลัง ไม่แม้จะกลับไปให้นมลูกสัก
ครั้ง ผมยิ่งเศร้าใจและเกลียดจนอยากจะฆ่ามันให้ตาย เมื่อเข้าไปยังบ้านญาติอีกครั้ง
และพบว่าบรรดาลูกหมาต่างได้ตายไปหมดแล้ว ทั้งที่ชั่วเวลาไม่ทันข้ามวันด้วยซ�้า
อาจมีหมาอื่นผ่านมาพบและกัดพวกมันจนตาย ผมคิดอย่างนั้น เพราะบางตัวมี
รอยเขี้ยวฝังลึกตรงล�าคอ บางตัวก็โดนลากไส้ออกมาข้างนอก และทุกตัวที่
245
ʶҺѹ¾Ãл¡à¡ÅŒÒ
01-288 Power of Thai People_Edit.indd 245 21/3/2561 BE 10:00