Page 37 - kpi17968
P. 37
26
3. แนวทางและข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาเพื่อให้บุคคลได้รับการ
คุ้มครองสิทธิในกระบวนการยุติธรรม
5. คดีทุจริตทางการเมืองและหลักนิติธรรม : ความย้อนแย้งและ
ดุลยภาพที่เหมาะสม?
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแทบทุกฉบับ กำหนดรับรองสิทธิของ
ผู้ต้องหา โดยมีหลักการสำคัญ คือ การสันนิษฐานว่าบุคคลเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่า
จะถูกพิสูจน์ว่ากระทำความผิด การคุ้มครองสิทธิในลักษณะนี้รวมกันเรียกว่า
“นิติกระบวน” (Due process of law) ซึ่งถือเป็นหลักการพื้นฐานที่สำคัญของ
หลักนิติธรรม และหลักการดังกล่าวนี้สะท้อนให้เห็นในกฎหมายฉบับต่างๆ
ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการพิจารณาคดี และแม้จะมีการจัดตั้งองค์กรต่างๆ เพื่อ
พิจารณาคดีลักษณะพิเศษ แต่การกำหนดกลไกต่าง ๆ ในการใช้อำนาจของ
องค์กรเหล่านั้น ก็จะเป็นไปอย่างจำกัดเพื่อไม่ให้ขัดต่อหลักนิติกระบวนนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม การยึดถือหลักการดังกล่าวอย่างเคร่งครัด อาจทำให้เกิดอุปสรรค
ในการพิจารณาคดีบางประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คดีการทุจริตทางการเมืองซึ่ง
เป็นคดีที่ก่อให้เกิดผลเสียหายต่อประเทศและส่งผลให้การพัฒนาประชาธิปไตย
เป็นไปอย่างไม่ราบรื่น ในการพิจารณาคดีลักษณะนี้ ถ้าหากใช้กระบวนการดำเนิน
คดีแบบปกติ ก็อาจเป็นอุปสรรคในการนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ หรือแม้
จะมีการตั้งองค์กรพิเศษหลายองค์กรเพื่อพิจารณาคดีดังกล่าว แต่ก็มีการใช้กรอบ
อำนาจอย่างจำกัด และมีการกำหนดกลไกที่ทับซ้อนกันจนทำให้การพิจารณาคดี
ต้องล่าช้า
ด้วยเหตุนี้ จึงควรมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นดังกล่าว เพื่อหา
จุดสมดุลระหว่างการคุ้มครองสิทธิของผู้ต้องหา และความมีประสิทธิภาพในการ
พิจารณาคดีทุจริตทางการเมืองซึ่งต้องการทั้งความรวดเร็วและถูกต้อง และอาจ
ต้องมีกระบวนการแสวงหาพยานหลักฐานหรือหลักในการรับฟังพยานหลักฐานที่
แตกต่างกัน ทั้งนี้ เพื่อนำไปสู่ข้อเสนอแนะในเรื่องกลไกของการพิจารณาคดีทุจริต
ทางการเมือง ตลอดจนกรอบอำนาจหน้าที่ขององค์กรที่เกี่ยวข้องในการพิจารณา
คดีดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพและเป็นไปตามหลักนิติธรรม
สาระสำคัญและประเด็นหลักในการประชุมกลุมยอย