Page 306 - kpi17968
P. 306
295
ความสำคัญและเป็นประโยชน์แก่คนทุกคนในสังคม แต่จริงๆ แล้ว เป็นประโยชน์
แต่เฉพาะชนชั้นปกครองเท่านั้น (อุดมการณ์ในลักษณะดังกล่าวนี้ได้ถูกขยาย
18
ความแตกต่างกันออกไป โดยนักสังคมศาสตร์สายมาร์กซิสต์) ด้วยเหตุนี้
ในการต่อสู้ทางการเมือง จึงจำเป็นต้องต่อสู้ในระดับของวัฒนธรรมและความคิด
ในการทำความเข้าใจในประเด็นการต่อสู้ทางวัฒนธรรมนี้ กรัมชี่ ได้ตั้ง
ประเด็นสมมุติฐานหลักที่เขาเรียกว่า “การแบ่งแยกทางยุทธศาสตร์” (a strategic
distinction) ระหว่าง “war of position” และ “war of manoeuvre” โดย
“war of position” เป็นสงครามทางความคิด (intellectual) หรือที่เขาเรียกว่า
“สงครามทางวัฒนธรรม” (culture war) ซึ่งบรรดานักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่
จุดยืนต่อต้านทุนนิยม---อันได้แก่ ผู้สนับสนุนผู้นำคอมมิวนิสต์ นักวิชาการ
ฝ่ายซ้าย (สังคมนิยม) และบรรดาผู้ที่ต้องการโค่นล้มอุดมการณ์ทุนนิยม----
จะต้องหาทางที่จะให้ความคิดของพวกเขาเป็นเสียงที่ครอบงำ (dominant voice)
ในสื่อมวลชน องค์กรมวลชนต่างๆ และสถานศึกษาเพื่อปฏิบัติการบ่อนทำลายทาง
อุดมการณ์ดังกล่าวอย่างแข็งขัน และเมื่อสามารถบรรลุเป้าหมายได้แล้ว การต่อสู้
เชิงจุดยืนทางความคิดนี้จะถูกใช้ไปเพื่อยกระดับจิตสำนึกทางชนชั้น (class
consciousness) สอนการวิเคราะห์และทฤษฎีปฏิวัติ เพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจใน
การจัดตั้งองค์กรปฏิวัติ และเมื่อได้ชัยชนะใน “intellectual war of position”
นี้แล้ว ผู้นำคอมมิวนิสต์ก็จะสามารถมีอำนาจทางการเมืองที่จำเป็นและการ
สนับสนุนของมวลชนในการเริ่มต้น “สงครามการรบ” (war of maneuver) และ
รวมถึงการใช้กำลังอาวุธเข้าล้มล้างทุนนิยม
18 ดู Erik Olin Wright, On Classes (London: Verso:1985), pp. 118-119: “Class
systems tent to be legitimized by two different sorts of ideologies: one which makes
appeals, explicitly or implicitly, to various kinds of rights in order to defend privilege
and another which appeals to the general welfare in order to defend privilege. The
formal language of rights probably does not pre-date the seventeenth century, but
rights-like legitimations have an ancient pedigree. Ideologies defences of feudalism in
terms of the divine ordained status of kings are as much as rights defences as the
more explicit claims typical of capitalist societies for the ‘natural right’ of people to
the fruits of their property so long as the property was obtained without force or
fraud.”
การประชุมกลุมยอยที่ 2