Page 249 - kpi17968
P. 249
238
ยึดหลักเสียงข้างมาก โดยเห็นว่าความชอบธรรมในการครองอำนาจและใช้อำนาจ
จะต้องมาจากการเลือกตั้ง และให้ความสำคัญแก่ความเสมอภาคทางสังคมและ
การเมืองเพื่อลดความเสียเปรียบที่พวกตนต้องเผชิญตลอดมา รวมทั้งเน้นเรื่อง
สิทธิและเสรีภาพของประชาชนในความสัมพันธ์กับรัฐภายใต้ “มาตรฐานเดียว”
และต่อต้านการปกครองที่เน้นศีลธรรมและอำนาจนอกระบบของ “อำมาตย์” อาจ
เรียกอุดมการณ์ที่คนกลุ่มนี้ยึดถือว่า “เสรีประชาธิปไตย”
ในระยะหลายปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าระบบการเมืองไทยมีทั้งการต่อสู้
ช่วงชิงอำนาจกันในระบบการเมืองที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ กล่าวคือ
ในระบบเลือกตั้ง พรรคการเมืองใหญ่ทั้งสองพรรคต่างก็สร้างฐานมวลชนโดยใช้
นโยบายประชานิยม ส่วนการเคลื่อนไหวทางการเมืองนอกรัฐสภานั้น ได้กล่าว
แล้วว่าฝ่าย “คนเสื้อแดง” อาศัยพลังทางอุดมการณ์ที่เน้นประชาธิปไตยแบบ
เลือกตั้งและหลักความเสมอภาค พร้อมกับโจมตี “อำมาตย์” ที่ใช้อำนาจนอก
ระบบ เพื่อสร้างความชอบธรรมและปลุกเร้าอารมณ์ความรู้สึก ในขณะที่ฝ่าย
“คนเสื้อเหลือง” อาศัยพลังทางอุดมการณ์ที่เน้น “ระบอบประชาธิปไตยอันมี
พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” และโจมตี “ระบอบทักษิณ” ในแง่ของการใช้
อำนาจเพื่อแสวงหาค่าเช่าทางเศรษฐกิจและความไม่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหา
กษัตริย์อันเป็นสถาบันหลักของชาติ
นอกจากนี้ในระบบการเมืองที่ไม่เป็นทางการยังมีการเคลื่อนไหวของคนอีก
หลายกลุ่ม เช่น การต่อรองกันในเรื่องต่างๆ โดยอาศัยการสร้างเครือข่ายใน
ลักษณะใหม่ๆ ทำให้เกิดเครือข่ายหลายรูปแบบที่ความสัมพันธ์ภายในกลุ่ม
มีลักษณะเสมอภาคมากขึ้น แตกต่างจากความสัมพันธ์ในเชิงอุปถัมภ์แบบเดิมเป็น
อันมากแม้ว่าเครือข่ายแบบอุปถัมภ์แบบเดิมจะยังเหลืออยู่ในหลายวงการก็ตาม
เป็นต้นว่าเครือข่ายชนชั้นนำทางเศรษฐกิจและข้าราชการชั้นสูงที่อาศัยหลักสูตร
การศึกษาพิเศษของสถาบันต่างๆ ในการสร้างกลุ่มที่ร่วมมือกันในระยะยาว
19
19 ดู นวลน้อย ตรีรัตน์ ภาคภูมิ วาณิชกะ, “เครือข่ายผู้บริหารระดับสูงผ่านเครือข่าย
ทางการศึกษาพิเศษ” ใน สู่สังคมไทยเสมอหน้า, กรุงเทพฯ: มติชน, 2558.
การประชุมกลุมยอยที่ 2