Page 191 - kpi17721
P. 191
นอกจากนี้แล้ว ในด้านทักษะทางปัญญา (IQ) ของเยาวชนในพื้นที่ซึ่งเป็นกลุ่มที่บริโภคไข่
ไอโอดีน จากการสำรวจของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี พบว่า กลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นเด็ก
นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และ 6 จำนวน 200 คนในพื้นที่ตำบลนาพู่มีทักษะทางปัญญา
ท้องถิ่นใจดี สูงสุดที่ระดับ 135 และต่ำสุดที่ระดับ 65 ซึ่งค่าเฉลี่ยโดยทั่วไปอยู่ที่ระดับ 89.95 ซึ่งผลที่เกิดขึ้นยังนำ
ไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคของประชาชน รวมถึงการมีทัศนคติที่ดีต่อการบริโภคไข่ไก่
และพืชผักเสริมไอโอดีนทั้งในแง่ของการป้องกันภาวะการเกิดโรคอันเกิดจากการขาดสารไอโอดีนและ
การสร้างเสริมสุขภาพอนามัยที่ดีด้วย
(2) การพัฒนาศักยภาพด้านการบริหารจัดการและเพิ่มบทบาทในการเข้ามามีส่วนร่วมใน
การพัฒนาชุมชน ดังจะเห็นได้ว่า กระบวนการเรียนรู้ในการทำงานร่วมกันไม่ได้ส่งผลต่อการดำ
เนินนวัตกรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นการพัฒนาศักยภาพและสร้างความเข้มแข็งให้แก่ภาคส่วนต่างๆ ที่เข้า
มามีบทบาทโดยเฉพาะอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ที่นอกจากทำหน้าที่ให้บริการทาง
สาธารณสุขแล้ว ยังได้รับการพัฒนาให้เป็นกลไกในการขับเคลื่อนกิจกรรมต่างๆ ในชุมชน นอกจากนี้
แล้ว นวัตกรรมนี้ยังแสดงให้เห็นว่า บทบาทนำขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในฐานะการพัฒนา
พื้นที่ให้เป็นต้นแบบหรือริเริ่มนวัตกรรมใหม่ๆ นั้น ไม่ใช่เพียงเรื่องสาธารณูปโภคหรือสาธารณูปการ
การพัฒนาคุณภาพชีวิตและสวัสดิการสังคม
ดังที่ผ่านมา แต่ยังไปถึงการให้บริการสาธารณะด้านสาธารณสุขในระดับของการป้องกันและรักษาโรค
ด้วย
(3) การขยายขอบข่ายการดำเนินนวัตกรรมในด้านเศรษฐกิจชุมชน กล่าวคือ ผลจากการ
ดำเนินนวัตกรรมนี้ไม่เพียงแต่ได้รับประโยชน์เฉพาะในส่วนงานด้านสาธารณสุขเท่านั้น แต่ยังรวมไป
ถึงสร้างโอกาสในการแสวงหารายได้ให้แก่เกษตรทั้งในระดับครัวเรือนและเจ้าของธุรกิจฟาร์มในพื้นที่
ซึ่งสามารถดำเนินการได้เองโดยไม่ได้ขึ้นอยู่กับการดำเนินการของฝ่ายการเมือง อย่างไรก็ดี แม้การ
เลี้ยงไก่ไข่ไอโอดีนจะมีต้นทุนการเลี้ยงจะสูงกว่าการเลี้ยงไก่ทั่วไป แต่ผลผลิตที่ได้ก็สามารถสร้างรายได้
เพิ่มขึ้น ไม่เพียงแต่การเลี้ยงไก่เท่านั้น ยังรวมไปถึงการปลูกผักด้วย กรณีความสำเร็จของการดำเนิน
การปลูกผักไอโอดีนเพื่อการค้าของประชาชนในหมู่ 13 บ้านดอนยาง ถือเป็นต้นแบบสำคัญในการ
ปลูกเพื่อการบริโภคในครัวเรือนและนำผลผลิตที่ได้ไปขายที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี
เป็นต้น
ทั้งนี้ จากการรณรงค์ให้ประชาชนเล็งเห็นความสำคัญของการบริโภคอาหารที่มีการเสริมสาร
ไอโอดีน รวมทั้งโครงการที่กระตุ้นให้เกิดการบริโภคต่างๆ เช่น การแจกไข่ให้แก่สตรีมีครรภ์ โครงการ
อาหารกลางวัน และโครงการขยะแลกไข่ ซึ่งนำไปสู่แนวโน้มที่ดี คือ ประชาชนเริ่มขอเปลี่ยนจากการ
รับแจกเกลือเป็นไข่ไอโอดีน รวมถึงประชาชนเริ่มหันมาซื้อไข่ไก่ไอโอดีนเพื่อการบริโภคมากขึ้น ส่งผล
ต่อความต้องการซึ่งเป็นการสร้างรายได้ให้ทั้งเกษตรกรที่เลี้ยงไก่ในครัวเรือนและผู้ประกอบการฟาร์ม
18 สถาบันพระปกเกล้า