Page 171 - kpi17721
P. 171
ภาพที่ 2 แสดงสภาวการณ์การขาดสารไอโอดีนของทารกแรกเกิดในอำเภอเพ็ญ
เปรียบเทียบกับจังหวัดอุดรธานีและประเทศไทยระหว่าง พ.ศ.2546-2551 9
ท้องถิ่นใจดี
กรณีของตำบลนาพู่ ถือเป็นพื้นที่หนึ่งที่ประสบปัญหาการขาดสารไอโอดีนระดับรุนแรงข้อมูล
เมื่อ พ.ศ. 2551 พบว่า มีประชาชนเป็นโรคขาดไอโอดีน จำนวน 55 รายและในจำนวนนี้มีเด็กพิการ
แต่กำเนิดส่งผลให้มีพัฒนาการเป็นไปด้วยความล่าช้า และด้วยผลจากภาวะร่างกายไม่พร้อมที่จะ
การพัฒนาคุณภาพชีวิตและสวัสดิการสังคม
สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงครอบครัวได้ จึงตกเป็นภาระและปัญหาทั้งต่อตนเองโดยตรงและสังคม
โดยอ้อม ทั้งนี้ได้มีการศึกษาพบว่าทารกแรกเกิดในพื้นที่ซึ่งมีการขาดสารไอโอดีนจะมีระดับ TSH
สูงกว่าปกติและการเสริมไอโอดีนให้แก่มารดาจะทำให้ระดับ TSH ของทารกลดลงอยู่ในระดับที่เป็น
ปกติได้
ผู้ริเริ่มโครงการ
จุดเริ่มต้นโครงการ
จากปัญหาดังกล่าวทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยศูนย์ปฏิบัติการการตรวจคัดกรอง
สุขภาพทารกแรกเกิดได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 8 (ปัจจุบันเปลี่ยน
เป็นศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 2) จังหวัดอุดรธานี ได้จัดตั้งเครือข่ายวิทยาศาสตร์การแพทย์
ชุมชนเพื่อเป็นกิจกรรมเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชนและ
ประชาชน ในการหาแนวทางป้องกันและบรรเทาปัญหาการขาดสารไอโอดีน ซึ่งเป็นการดำเนินการ
ที่เน้นการสื่อสารเพื่อให้ข้อมูลและสำรวจสภาพปัญหา รวมถึงระดับความรุนแรงของปัญหาในพื้นที่
9 จินตนา ว่องวิไลรัตน์ และ อำนวย อินทรธิราช, “นวัตกรรมต้นแบบการแก้ปัญหาโรคเอ๋อและโรคขาดสาร
ไอโอดีนในพื้นที่อย่างยั่งยืน : การเพิ่มสารไอโอดีนในห่วงโซ่อาหารและผลิตภัณฑ์การเกษตร”, (ออนไลน์),
(ไม่ปรากฎวันที่), แหล่งที่มา: http://dmsc2.dmsc.moph.go.th/webroot/udonthani/web/ develop/
Development/Neonatal 20Screening/9A.pdf (15 สิงหาคม 2558).
1 สถาบันพระปกเกล้า