Page 354 - kpi17073
P. 354
การประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 16 353
ในส่วนของหลักธรรมทางศาสนาไม่ว่าจะเป็นศาสนาพุทธ คริสต์ อิสลาม พราหมณ์ หรือ
ฮินดู ฯลฯ จะเห็นได้ว่าศาสนิกชนยังไม่ได้นำหลักธรรมคำสอนมาใช้ประพฤติปฏิบัติในวิถีชีวิตอย่าง
แท้จริง รวมไปถึงแนวพระราชดำริและพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่แม้ว่า
ประชาชนจะให้การเคารพสักการะและเทิดทูนพระองค์ท่านอย่างสูงสุด แต่การยึดถือและปฏิบัติ
ตามก็ยังคงมีในสัดส่วนที่น้อยมาก ทั้งแนวคิดหรือหลักความพอเพียงและกระแสพระราชดำรัสใน
เรื่องความความซื่อตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความซื่อตรงต่อหน้าที่ ซึ่งพระราชทานแก่ผู้นำและ
บุคลากรในทางการเมืองการปกครอง การบริหารราชการแผ่นดินที่มีอำนาจรัฐอยู่ในมือนั้น
มีจำนวนมากตลอดรัชสมัยของพระองค์ท่าน
นอกจากนี้ “หลักราชการ” ที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรง
พระราชนิพนธ์ไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2457 ซึ่งมีสาระโดยสรุปได้ว่าข้าราชการมีแต่เพียงความรู้เท่านั้น
ไม่พอ จำเป็นต้องมี “คุณวิเศษ” 10 ประการด้วย โดยที่ “ความซื่อตรงต่อหน้าที่” และ “ความ
ซื่อตรงต่อคนทั่วไป” นั้น เป็น 2 ใน 10 ข้อ อันเป็นคุณลักษณะของข้าราชการที่ดี แต่อย่างไร
ก็ตามนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2457 จนกระทั่งถึงปัจจุบันก็ 100 ปี ล่วงมาแล้ว ที่ภาคราชการไทยยังคง
ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีการทุจริตและประพฤติมิชอบ และก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ
ชาติและส่วนรวมอยู่เป็นจำนวนมาก
ในปัจจุบันนี้อาจกล่าวได้ว่าสังคมไทยยังขาดต้นแบบหรือแบบอย่างที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
จากผู้นำในทุกระดับ รวมไปถึงการขาดระบบและกระบวนการยกย่องเชิดชูดูแลคนดีที่ซื่อตรง และ
การให้การศึกษาและการเรียนรู้ในสังคม โดยสถาบันหลักของสังคม หน่วยงานภาครัฐ รวมทั้ง
สื่อมวลชนที่ยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างสังคมแห่งคุณธรรมความซื่อตรง จึงทำให้
สังคมไทยเป็นสังคมที่ไม่ได้ให้คุณค่ากับ “ความซื่อตรง” นับตั้งแต่ผู้นำระดับสูงของประเทศ ไปจน
กระทั่งถึงปัจเจกชนหรือบุคคลธรรมดาที่พบว่ามีความบกพร่องในเชิงศีลธรรมจริยธรรม โดย
เฉพาะความซื่อตรง เนื่องจากขาดภูมิคุ้มกัน หรือขาดวุฒิภาวะที่จะใช้วิจารณญาณหรือสติ
ไตร่ตรองหาเหตุผลได้ด้วยตนเอง ไม่รู้จักบทบาทหน้าที่ของตน ขาดความรับผิดชอบ ขาดวินัย
และไม่เคารพกฎหมายบ้านเมือง กฎเกณฑ์ กติกา และมารยาทของสังคม ซึ่งอาจเป็นไปเพราะ
ขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องแท้จริง
นอกจากนั้น ยังมีกลุ่มคนส่วนใหญ่ที่ประพฤติปฏิบัติตนในลักษณะที่เบี่ยงเบนไปจากความ
ซื่อตรง โดยไม่รู้สึกว่าเป็นการกระทำที่ควรละเว้น แต่กลับรู้สึกดีหากทำเช่นนั้นได้ ซึ่งถือว่า
ทัศนคติหรือวัฒนธรรมบางประการที่เป็นปัญหาหรืออุปสรรคต่อการเสริมสร้างความซื่อตรง เช่น
การยอมรับการทุจริตคอร์รัปชั่นหรือความไม่ซื่อตรงได้ ปัญหาความรุนแรงเกี่ยวกับปัญหา
คอร์รัปชั่นไม่เพียงแต่จะสร้างปัญหาให้กับระบบเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ตลอดจนการ
อำนวยความยุติธรรมและการสร้างความเป็นธรรมทางสังคมเท่านั้น หากแต่ยังก่อให้เกิด
ผลกระทบต่อระบบคุณค่าทางสังคมอันเกี่ยวพันกับการรับรู้และการดำเนินชีวิตของคนในสังคม
ขณะเดียวกัน สังคมไทยยังขาดปทัสฐาน หรือบรรทัดฐาน (Norm) ที่เป็นแบบแผน
กฎเกณฑ์ หรือเกณฑ์กลางที่สังคมให้การยอมรับร่วมกัน มีการยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดหรือ การประชุมกลุ่มย่อยที่ 4