Page 237 - kpi17073
P. 237
236 การประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 16
ส.ส. ในสภา ยกตัวอย่างในกรณีของการเข้าชื่อเสนอร่างกฎหมายจะเห็นว่า แม้การทำหน้าที่ทาง
นิติบัญญัติโดยการเข้าชื่อเสนอร่างกฎหมายนั้นอาจถูกมองว่าเป็นเรื่องของบุคคลมากกว่าระบบ
แต่จากการสืบค้นเพิ่มเติมจะพบว่าในปัจจุบันระบบการทำงานของพรรคการเมืองส่วนใหญ่นั้นเป็น
ระบบการทำงานแบบรวมศูนย์อำนาจนั่นคือ มีการจัดระบบการทำงานที่พรรคจะกำหนดทิศทางใน
การทำงานของ ส.ส. ที่สังกัดพรรคในสภาที่จะต้องเป็นไปในทางเดียวกัน ซึ่งข้อตกลงในการทำงาน
และปฏิบัติการในสภานี้อาจจะมาจากมติของ ส.ส. ในที่ประชุมทั้งหมด หรืออาจจะมาจาก
คณะผู้บริหารพรรคได้เช่นกัน โดยข้อตกลงอาจได้ระบุว่าการดำเนินงานในส่วนของการเสนอ
ร่างกฎหมายนี้จะมอบหมายให้ ส.ส. คนใดหรือกลุ่มใดรับไปดำเนินการ หรือ จะปล่อยให้เป็น
หน้าที่ของคณะรัฐมนตรีของพรรค (หากเป็นพรรคร่วมรัฐบาล) เป็นผู้ดำเนินการในส่วนนี้ ดังนั้น
การได้เห็นตัวเลขที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอร่างกฎหมายเพื่อพิจารณาเป็นส่วนใหญ่จึงไม่ได้
สะท้อนถึงความด้อยประสิทธิภาพของ ส.ส. ที่มาจากสาเหตุส่วนบุคคล แต่เป็นสาเหตุของระบบ
การทำงานของพรรคเสียมากกว่า
และเมื่อพิจารณาพฤติกรรมการลงมติในเรื่องพิจารณาต่างๆ ในสภาของ ส.ส. ก็จะเห็นว่า
สาเหตุที่แท้จริงนั้นมาจากระบบการทำงานของพรรคการเมืองมากกว่าเรื่องของบุคคล ด้วยเหตุผล
ที่ว่า แม้โดยหลักการแล้วนั้น ส.ส. เป็นตัวแทนของประชาชนในเชิงพื้นที่ การลงมติในบางเรื่อง
5
จึงต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของพื้นที่ของตน ซึ่งในบางกรณีผลประโยชน์ของพื้นที่หนึ่งย่อมส่ง
ผลกระทบในทางลบต่ออีกพื้นที่หนึ่งได้ ดังนั้น การลงมติในบางกรณี ส.ส. อาจจะไม่สามารถที่จะ
ลงมติไปในทางเดียวกับที่พรรคได้มีมติไว้ แต่จากข้อมูลที่นำมาแสดงให้เห็นนั้น ก็พบว่า
พฤติกรรมการลงมติของ ส.ส. หาเป็นไปในทิศทางที่ได้กล่าวไว้ ซึ่งสาเหตุที่ระบุได้ในส่วนนี้ คือ
สาเหตุเดียวกับพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในทางนิติบัญญัติของ ส.ส. นั่นก็คือ ระบบการทำงานของ
พรรคการเมืองที่รวมอำนาจการตัดสินใจในการบริหารพรรคการเมืองทั้งในเรื่องของการทำงาน
ในสภาไปจนถึงขั้นตอน กระบวนการ และวิธีการคัดสรรผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งที่คณะกรรมการ
บริหารพรรคเป็นผู้กำหนด ทำให้การมีพฤติกรรมที่ไม่เป็นที่พึงประสงค์ของคณะกรรมการบริหาร
พรรคและคณะทำงานกำหนดทิศทางการทำงานของพรรคการเมืองในสภาจึงไม่เป็นพฤติกรรมที่
ส.ส. จะเลือกทำ เป็นต้นว่า การลงคะแนนเสียงที่ผิดไปจากมติพรรค หรือ การเสนอเรื่อง
เข้าพิจารณาที่ไม่ได้ตกลงกันในพรรคไว้ก่อน
อย่างไรก็ดี ในทางวิชาการปัจจัยหนึ่งที่สามารถอธิบายการที่พรรคการเมืองมีระบบ
พรรคการเมืองที่รวมศูนย์นั้น คือ ปัจจัยที่เรียกว่า ความเป็นระเบียบวินัยในพรรคการเมือง (Party
Discipline) ซึ่งปัจจัยนี้เป็นตัวขับที่ทำให้พรรคการเมืองในระบบรัฐสภานั้นจำเป็นต้องมีการทำงาน
ที่เป็นระบบรวมศูนย์ในระดับหนึ่ง
ในทางทฤษฎี การมีระเบียบวินัยในพรรค (Party Discipline) จะนำไปสู่การดำเนินงานของ
การประชุมกลุ่มย่อยที่ 2 เป็นตัวแทนของประชาชนเพราะการมีพฤติกรรมที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันผ่านความเป็นระเบียบ
พรรคการเมืองด้วยความมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จในการทำหน้าที่ในสภาและการ
แม้ในกรณีของ ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อ จะไม่ได้ระบุพื้นที่ของการเป็นตัวแทน แต่การทำหน้าที่เป็นตัวแทน
5
ของ ส.ส. ที่มาจากระบบการเลือกตั้งส่วนนี้ก็ถือว่าพื้นที่นั้น คือทั้งประเทศ