Page 236 - kpi17073
P. 236
การประชุมวิชาการ 235
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 16
ที่ 1 ภาพรวมการพิจารณาการลงมติของสมาชิกสภาผูแทนราษฎรชุดที่ 24 (ส.ค. 54– .ค. 56)
ตารางที่ 15 ภาพรวมการพิจารณาการลงมติของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 24 (ส.ค. 54–
– ทั้งสภา
ธ.ค. 56) – ทั้งสภา
ม มที่ ี่ ม ม ิ ่น
น น น น น น
ม ม ม
น น น
258 52.12 261 52.73 227 45.86
93 18.79 67 13.54 203 41.01
132 26.67 146 29.49 58 11.72
12 2.42 21 4.24 7 1.41
ม 1 ม 1 ม 1
ิท ิภ ม ที่ ม ูน
สาเหตุของการไร้ประสิทธิภาพ: ระบบพรรคการเมืองที่รวมศูนย์
หากมองโดยผิวเผินแลว สาเหตุของการดอยประสิท ิภาพของ ส.ส. ที่นําเสนอจากขอมูลเชิง
หากมองโดยผิวเผินแล้ว สาเหตุของการด้อยประสิทธิภาพของ ส.ส. ที่นำเสนอจากข้อมูล
ประจักษขางตนก็จะเห็นวา สาเหตุจะมีที่มาตางกันไปในแตละกรณี นั่นคือ ในประเด็นของการมีสวนรวม
เชิงประจักษ์ข้างต้นก็จะเห็นว่า สาเหตุจะมีที่มาต่างกันไปในแต่ละกรณี นั่นคือ ในประเด็นของการ
ในกระบวนการออกกฏหมายอาจมาจากสาเหตุ สวนบุคคล ของ ส.ส. เอง เพราะการเสนอรางกฎหมาย
มีส่วนร่วมในกระบวนการออกกฎหมายอาจมาจากสาเหตุ “ส่วนบุคคล” ของ ส.ส. เอง เพราะการ
เพื่อพิจารณานั้น รัฐ รรมนูญไดระบุถึงการสามารถที่จะมีสวนรวมในการเสนอรางกฎหมายเพื่อพิจารณา
เสนอร่างกฎหมายเพื่อพิจารณานั้น รัฐธรรมนูญได้ระบุถึงการสามารถที่จะมีส่วนร่วมในการเสนอ
ได ึ่งการเสนอนั้นไมจําเปนตองเปนการเสนอเพียงคนเดียวแตสามารถนําเสนอเปนหมูคณะได เทากับ
ร่างกฎหมายเพื่อพิจารณาได้ ซึ่งการเสนอนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นการเสนอเพียงคนเดียวแต่สามารถ
วา แม ส.ส. คนใดคนหนึ่งอาจจะไมมีความถนัดหรือเชี่ยวชาญในกระบวนการการตรากฎหมาย แตมี
นำเสนอเป็นหมู่คณะได้ เท่ากับว่า แม้ ส.ส. คนใดคนหนึ่งอาจจะไม่มีความถนัดหรือเชี่ยวชาญ
ความรูในเนื้อหาของกฎหมายที่มีความจําเปนในการจะตองตราออกมาก็สามารถทําได โดยรวมกับ ส.ส.
ในกระบวนการการตรากฎหมาย แต่มีความรู้ในเนื้อหาของกฎหมายที่มีความจำเป็นในการจะต้อง
คนอื่นๆ แตผลเชิงประจักษที่แสดงออกมาก็ไดชี้วาอยางนอยรอยละ 15 ของ ส.ส. ชุดที่ 23 และ อยาง
ตราออกมาก็สามารถทำได้ โดยร่วมกับ ส.ส. คนอื่นๆ แต่ผลเชิงประจักษ์ที่แสดงออกมาก็ได้ชี้ว่า
นอยรอยละ 38 ของ ส.ส. ชุดที่ 24 กลับไมเคยเสนอรางกฎหมายใดๆ เพื่อพิจารณาเลย ดังนั้น ณ จุดนี้
อย่างน้อยร้อยละ 15 ของ ส.ส. ชุดที่ 23 และ อย่างน้อยร้อยละ 38 ของ ส.ส. ชุดที่ 24 กลับ
สําหรับประเด็นของการเสนอรางกฎหมายนั้นจึงสามารถระบุถึงสาเหตุของการดวยประสิท ิภาพนี้ไดวา
ไม่เคยเสนอร่างกฎหมายใดๆ เพื่อพิจารณาเลย ดังนั้น ณ จุดนี้ สำหรับประเด็นของการเสนอ
เปนเรื่องของ ส.ส. รายบุคคลที่ไมไดแสดงใหเห็นถึงความพยายามในการเขาไปมีสวนรวมใน
ร่างกฎหมายนั้นจึงสามารถระบุถึงสาเหตุของการด้วยประสิทธิภาพนี้ได้ว่าเป็นเรื่องของ ส.ส.
กระบวนการทางนิติบัญญัติที่เปนหนาที่หลักของการทําหนาที่ ส.ส.
รายบุคคลที่ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการเข้าไปมีส่วนร่วมในกระบวนการทาง
และเมื่อมองป ญหาในการตั้งกระทูแลวนั้น สาเหตุก็มองไดวาสวนหนึ่งก็มาจาก สวนบุคคล ของ
นิติบัญญัติที่เป็นหน้าที่หลักของการทำหน้าที่ ส.ส.
ส.ส. เองที่ไมไดมองเห็นกระทูเปนเครื่องมือในการทําหนาที่ แตอีกสวนหนึ่งก็คือ ระบบ การบริหารการ
และเมื่อมองปัญหาในการตั้งกระทู้แล้วนั้น สาเหตุก็มองได้ว่าส่วนหนึ่งก็มาจาก “ส่วนบุคคล”
ประชุมสภาที่จัดเครื่องมือการตรวจสอบ ายบริหารของ ายนิติบัญญัติและการแกไขป ญหาความ
ของ ส.ส. เองที่ไม่ได้มองเห็นกระทู้เป็นเครื่องมือในการทำหน้าที่ แต่อีกส่วนหนึ่งก็คือ “ระบบ”
เดือดรอนของประชาชนใหมีขั้นตอนและวิ ีการการใชเครื่องมือนี้ที่ไมนําไปสูการบรรลุเป าหมายของการ
การบริหารการประชุมสภาที่จัดเครื่องมือการตรวจสอบฝ่ายบริหารของฝ่ายนิติบัญญัติและการ
มีอยูของเครื่องมือ
ยิ่งไปกวานั้น เมื่อมองลงไปในรายละเอียดก็จะเห็นวาป ญหาหลักของสาเหตุการดอย
แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้มีขั้นตอนและวิธีการการใช้เครื่องมือนี้ที่ไม่นำไปสู่การ
บรรลุเป้าหมายของการมีอยู่ของเครื่องมือ
ประสิท ิภาพทั้งสามประเด็นที่นําเสนอคือ คือ า ม ที่มี า ม
า า ที่มีผลตอการแสดงออก ึ่งพ ติกรรมและการจัดกระบวนการการทําหนาที่ ส.ส. ในสภา
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อมองลงไปในรายละเอียดก็จะเห็นว่าปัญหาหลักของสาเหตุการ
ยกตัวอยางในกรณีของการเขาชื่อเสนอรางกฎหมายจะเห็นวา แมการทําหนาที่ทางนิติบัญญัติโดยการ การประชุมกลุ่มย่อยที่ 2
ด้อยประสิทธิภาพทั้งสามประเด็นที่นำเสนอคือ คือ “ระบบ” ของพรรคการเมือง ที่มีลักษณะการ
“รวมศูนย์อำนาจ” ที่มีผลต่อการแสดงออกซึ่งพฤติกรรมและการจัดกระบวนการการทำหน้าที่