Page 209 - kpi17073
P. 209
208 การประชุมวิชาการ
สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 16
หรือรัฐวิสาหกิจ ที่มีลักษณะเป็นการผูกขาดตัดตอนไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม ตลอดจน
ห้ามรับเงินหรือผลประโยชน์ใดๆ จากหน่วยราชการหรือหน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจเป็น
พิเศษ นอกเหนือไปจากที่หน่วยราชการหรือหน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจปฏิบัติกับบุคคลอื่นๆ
2
ในธุรกิจการงานปกติ
ทั้งนี้ อาจกล่าวได้ว่า วุฒิสภาเป็นสภาอันทรงเกียรติที่มีแต่ผู้มีความรู้ความสามารถซึ่งได้รับ
การคัดเลือกให้เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารประเทศกับสภาผู้แทนราษฎรที่ช่วยเป็นทั้ง “สภา
พี่เลี้ยง” และมีอำนาจกลั่นกรองกฎหมาย ที่ผ่านการพิจารณาจากสภาผู้แทนราษฎร ควบคุมการ
บริหารราชการแผ่นดินโดยตั้งกระทู้ถามรัฐบาล และสามารถเปิดอภิปรายทั่วไปเมื่อรัฐบาลขอรับ
ฟังความคิดเห็นโดยไม่ลงมติ แต่ในภายหลังวุฒิสมาชิกที่มาจากการแต่งตั้งกลับมีปัญหาเกิดขึ้น
ทางการเมืองที่ถือระบบ “ตอบแทน”
เมื่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทยได้พัฒนามาระยะหนึ่งแล้ว และ
เพื่อส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตยให้มากยิ่งขึ้น จึงเกิดแนวความคิดที่จะให้สมาชิกวุฒิสภามีที่มา
ที่มีจุดยึดโยงกับประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ด้วยเหตุนี้ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร
ไทย พุทธศักราช 2540 จึงกำหนดให้สมาชิกวุฒิสภามาจากการเลือกตั้งจำนวนสองร้อยคน และ
3
ยังกำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อให้วุฒิสภาไม่มีความเกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง เช่น ข้อกำหนด
ห้ามผู้สมัครรับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาสังกัดพรรคการเมือง ห้ามลงพื้นที่หาเสียง ตลอดจน
4
ห้ามสมาชิกวุฒิสภาเป็นรัฐมนตรี และห้ามดำรงตำแหน่งสองสมัยติดกัน เป็นต้น
นอกจากนี้ เมื่อมีการกำหนดให้สมาชิกวุฒิสภามีที่มาที่มีจุดยึดโยงกับประชาชนโดยตรง
เช่นเดียวกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแล้ว จึงมีการกำหนดให้สมาชิกวุฒิสภามีอำนาจมากยิ่งขึ้น
อาจกล่าวได้ว่า วุฒิสภาไม่ได้เป็นเพียง “สภาพี่เลี้ยง” อีกต่อไป หากแต่มีอำนาจต่างๆ เพิ่มขึ้น
ได้แก่ อำนาจในการคัดเลือกบุคคลเข้าสู่ตำแหน่งในองค์กรตรวจสอบต่างๆ เช่นคณะกรรมการการ
เลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
ตุลาการศาลปกครอง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ อำนาจในการ
แต่งตั้งและถอนถอนผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง อำนาจในการเปิดอภิปรายทั่วไปในวุฒิสภา เป็นต้น
ทำให้สมาชิกวุฒิสภามีบทบาทที่ปรากฏและเห็นได้ชัดเจนต่อสาธารณะมากขึ้นตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 จะกำหนดข้อห้าม
ไว้หลายประการเพื่อให้สมาชิกวุฒิสภาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง มีความเป็นกลางและ
ไม่มีเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์กับทางราชการ เช่น ห้ามสมาชิกพรรคการเมือง หรือผู้ดำรง
ตำแหน่งอื่นในพรรคการเมือง ผู้ที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือเคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทน
ราษฎรมาแล้วยังไม่เกิน 1 ปีนับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา
เป็นต้น ก็ตาม แต่ในทางปฏิบัติ สมาชิกวุฒิสภาที่มาจากการเลือกตั้งเหล่านี้ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า
การประชุมกลุ่มย่อยที่ 2 2 3 4 เพิ่งอ้าง มาตรา 102
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 มาตรา 121
ถ้าเคยเป็นต้องพ้นจากตำแหน่งมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี