Page 363 - kpi16531
P. 363
3 นวัตกรรมการพัฒนารายได้
ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
.2 ความหมายและกรอบความคิด
.2.1 ความหมาย
หนี้สาธารณะ (Public Debt) หมายถึง หนี้ที่รัฐบาลเป็นผู้ก่อขึ้นเพื่อนำเงินมาใช้จ่าย หรือเพื่อ
เป็นแหล่งรายรับอย่างหนึ่งนอกเหนือจากภาษีอากร การขายสิ่งของและบริการ รายได้จากรัฐพาณิชย์
และเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ แต่อย่างไรก็ตามแม้รัฐบาลจะเป็นผู้ก่อหนี้แต่ไม่นิยมเรียกว่าหนี้ของ
รัฐบาล (Government Debt) เนื่องจากผู้มีหน้าที่ใช้คืนเงินต้น และดอกเบี้ยก็คือประชาชนนั้นเอง
โดยรัฐบาลจะกำหนดงบประมาณรายจ่ายเพื่อชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยไว้ และเก็บภาษีอากรจาก
ประชาชนเพื่อชำระหนี้สินที่เกิดขึ้น (จีรพรรณ ชีรานนท์, 2548: 212) ซึ่งสอดคล้องกับคำนิยาม
ที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2551
มาตรา 4 ว่า หนี้สาธารณะ หมายถึง “หนี้ที่กระทรวงการคลัง หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจกู้
หรือหนี้ที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน แต่ไม่รวมถึงหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ทำธุรกิจให้กู้ยืมเงิน
โดยกระทรวงการคลังมิได้ค้ำประกัน” ส่วนการกู้ยืมเงินของท้องถิ่น หมายถึง การกู้เงินขององค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นจากแหล่งเงินกู้ในประเทศและต่างประเทศ การเช่าซื้อ และการใช้สินเชื่อด้วยการ
ผ่อนชำระ รวมทั้งการกู้เงินเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน
พันธบัตรรัฐบาล หมายถึง ตราสารหนี้ที่รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังเป็นผู้ออก เพื่อกู้เงินจาก
ประชาชน ดังนั้น รัฐบาลจะอยู่ในฐานะเป็นลูกหนี้ ส่วนผู้ที่ถือพันธบัตร ได้แก่ ประชาชน สถาบัน
การเงิน หรือองค์กรใดๆ ที่ถือพันธบัตรมีฐานะเป็นเจ้าหนี้ของรัฐบาล ส่วนพันธบัตรเทศบาลเป็น
รูปแบบหนึ่งของการระดมทุนจากรายได้ที่ประเมินว่าจะเก็บได้จากภาษีและค่าธรรมเนียมในช่วงเวลา
การให้บริการ โดยที่พันธบัตรท้องถิ่นหรือพันธบัตรเทศบาลนั้นจะมีความหมายคล้ายคลึงกับพันธบัตร
รัฐบาล กล่าวคือ ในความเป็นจริงแล้วทั้งพันธบัตรรัฐบาล (Government Bond) และพันธบัตร
เทศบาล (Municipal Bond) ต่างก็มีความคล้ายคลึงกันตรงที่เป็นพันธบัตรที่ออกโดยหน่วยงานภาครัฐ
เหมือนกัน โดยพันธบัตรรัฐบาลออกโดย “รัฐบาล” ซึ่งมีหน้าที่ปกครองดูแลและบริหารงานในระดับ
ประเทศ ในขณะที่พันธบัตรท้องถิ่นหรือพันธบัตรเทศบาลออกโดย “องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น”
ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ได้รับกระจายอำนาจมาจากส่วนกลาง เพื่อทำหน้าที่ในการบริหารงาน และ
จัดบริการสาธารณะในพื้นที่ต่างๆ
สำหรับกรอบหรือแนวทางการพิจารณาเกี่ยวกับหนี้สาธารณะ สามารถจำแนกออกเป็น
3 แนวคิดสำคัญ ดังนี้ (ปรีชา สุวรรณทัต, 2554: 181-184)
1. แนวคิด Classic นักวิชาการกลุ่มนี้มีความคิดเห็นไปในแนวทางเดียวกัน คือคัดค้านการ
ก่อหนี้สาธารณะอย่างสุดโต่ง โดยมีเหตุผลสนับสนุน ดังนี้ 1) การก่อหนี้สาธารณะเป็น
วิธีการหาเงินที่ง่าย จึงอาจส่งผลให้รัฐบาลใช้จ่ายเงินเพิ่มขึ้นโดยขาดความรับผิดชอบ
2) การกู้ยืมเงินส่งผลให้เกิดภาระการใช้คืนเงินต้นและดอกเบี้ยในอนาคตซึ่งส่งผลให้ภาระ
หนี้ดังกล่าวตกอยู่ที่ประชาชน เพราะอาจจำเป็นต้องมีการเก็บภาษีหรือจัดเก็บรายได้จาก
ประชาชนเพื่อนำมาชำระคืนหนี้สาธารณะดังกล่าว 3) การสะสมหนี้ก่อให้เกิดภาระการชำระ
หนี้ดอกเบี้ยสูงในอนาคต 4) ก่อให้เกิดการขาดเสถียรภาพทางการคลังและทางเศรษฐกิจ