Page 279 - kpi12821
P. 279
ณรงค์เดช สรุโฆษิต
แม้ศาลท่านจะ “เห็นใจ” แต่ก็ไม่อาจรับข้ออ้างเหล่านั้นเพื่อให้ “ไม่” สั่งยุบพรรค
การเมืองนั้นๆ ได้ 14
นอกจากนั้น เนื่องจากรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องบัญญัติไว้อย่างชัดเจน
ว่า ต้องมีการ “กระทำการ ก่อ หรือสนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืน”
กฎหมายเลือกตั้ง “ซึ่งมีผลทำให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม”
ดังนั้น เงื่อนไขข้อหนึ่งก่อนการพิจารณาสั่งยุบพรรคการเมืองตามเหตุข้อนี้ก็คือ ต้องมี
การวินิจฉัยข้อเท็จจริงให้เป็นที่ยุติแล้วว่า ได้มีการกระทำผิดอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย
15
16
เลือกตั้ง จึงจะดำเนินคดียุบพรรคการเมืองได้ ไม่ว่าจะเป็นกรณีวินิจฉัยการกระทำผิด
กฎหมายเลือกตั้ง ก่อนประกาศผลการเลือกตั้งโดย กกต. ซึ่งผ่านการปรึกษาหารือกับ
17
คณะกรรมการตรวจสอบ หรือหลังประกาศผลการเลือกตั้ง อันจะอยู่ในอำนาจหน้าที่
ของศาลฎีกาในการพิจารณาวินิจฉัย โดยศาลรัฐธรรมนูญถือว่า ข้อเท็จจริงต่างๆ
18
เกี่ยวกับการกระทำการฝ่าฝืนข้อห้ามตามกฎหมายเลือกตั้ง ทั้งกรณีการวินิจฉัยก่อนและ
หลังการประกาศผลการเลือกตั้ง ย่อมเป็นอันยุติตามนั้น ศาลรัฐธรรมนูญไม่อาจรับฟัง
14 คดีพรรคชาติไทย, เรื่องเดิม, น. 93 (คำชี้แจงของผู้ถูกร้อง) และ น. 99 (ข้อวินิจฉัยของศาล). คดีพรรค
พลังประชาชน, เรื่องเดิม, น. 16 - 17 (คำชี้แจงของผู้ถูกร้อง) และ น. 25 (ข้อวินิจฉัยของศาล); ทั้งนี้ มีข้อสังเกต
เล็กๆ ว่า ศาลท่านระบุ “เห็นใจ” คำชี้แจงของพรรคชาติไทย แต่ไม่เห็นใจพรรคพลังประชาชนเลย ทั้งๆ ที่พรรค
พลังประชาชนก็ยกข้อต่อสู้ในทำนองเดียวกันนี้
15 โปรดเทียบคดีพรรคไทยรักไทย ซึ่ง ณ ขณะเวลาที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคไปนั้น ยังมิได้มีการดำเนิน
คดีอาญากับพลเอกธรรมรักษ์ อิสรางกูร ณ อยุธยา รองหัวหน้าพรรคผู้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง แต่ศาล
รัฐธรรมนูญก็อ้างอิงถึงคดีการสั่งเพิกถอนการจัดการเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายน 2549 – ศร. ที่ 9/2549 ลงวันที่ 8
พฤษภาคม 2549 [รจ. ล. 123 ต.71ก (12กรกฎาคม 2549) น. 1 – 352]; แต่ทั้งนี้ เนื้อความในกฎหมายที่ใช้เป็น
ฐานในการยุบพรรคในกรณีดังกล่าวแตกต่างจากการยุบพรรคตามมาตรา 237 นี้
16 อย่างไรก็ดี อาจมีผู้โต้แย้งว่า กกต. อาจเริ่มกระบวนการยุบพรรคเพราะกระทำฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง
ตามมาตรา 237 วรรคสองได้ ก่อนที่กระบวนการวินิจฉัยความผิดจะเป็นอันยุติ เช่น ในกรณีที่มีการประกาศผล
การเลือกตั้งแล้ว กกต. พบเหตุทุจริต จึงเสนอเรื่องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่และเพิกถอนสิทธิ
เลือกตั้งผู้สมัคร และในขณะเดียวกันก็เสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อดำเนินคดียุบพรรคการเมืองไปพร้อมๆ กัน
แต่ทั้งนี้ ผู้วิจัยไม่เห็นด้วยกับมุมมองดังกล่าว ดังจะได้อธิบายในรายงานวิจัยฉบับต่อไป
17 รัฐธรรมนูญ, ม. 239 วรรคหนึ่ง; และพรป. การเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. 2550, ม. 103, และ
ม. 105; ซึ่งได้แก่ คดีพรรคชาติไทย, เรื่องเดิม, น. 96 – 97; และคดีพรรคมัชฌิมาธิปไตย, เรื่องเดิม, น. 14 – 15.
18 รัฐธรรมนูญ, ม. 239 วรรคสอง; และพรป. การเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. 2550, ม. 111;
ซึ่งได้แก่ คดีพรรคพลังประชาชน, เรื่องเดิม, น. 21 – 22.