Page 65 - kpiebook67002
P. 65
บทที่ 4
ช่องทางการสื่อสารของรัฐสภาต่างประเทศ
หลายประเทศทั่วโลกได้ให้เสรีภาพด้านการพูดและเสรีภาพของสื่ออย่างกว้างขวาง อีกทั้งสื่อยังมีบทบาท
ในการสนับสนุนรัฐบาล ส่งเสริมบทบาทผู้น า สร้างความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง อย่างที่ปรากฎในอังกฤษช่วง
ศตวรรษที่ 16 ช่องทางการสื่อสารอย่างหนังสือพิมพ์มีบทบาทและหน้าที่ในการสนับสนุนการท างานของรัฐบาล
ท าให้ผู้น ามีบทบาทเด่นชัดขึ้นมา จนต่อมาในศตวรรษที่ 17 แนวคิดเรื่องรัฐไม่ควรจะควบคุมสื่อ ควรปล่อยให้สื่อ
ท างานได้อย่างเป็นอิสระได้รับความนิยมมากขึ้น และสื่อเองก็มีหน้าที่ในการน า เสนอ
ความจริง เปิดโอกาสให้ประชาชนมีสิทธิและเสรีภาพในสิ่งที่จ าเป็นต้องรู้ (right to know) ดังนั้น ช่องทาง
การสื่อสารจึงมีบทบาทส าคัญในการท าหน้าที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างประชาชนกับรัฐบาล หน่วยงานของรัฐ และ
องค์กรทางการเมืองต่าง ๆ เพื่อท าให้ประชาชนรับทราบข่าวสารและถ่ายทอดข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมต่าง ๆ
ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามการถ่ายทอดข่าวสารไม่ใช่เป้าประสงค์หลักเพียงอย่างเดียวของการสื่อสาร แต่จ าเป็น
จะต้องมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น มีช่องทางที่ประชาชนสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง หรือ
ร่วมแสดงความคิดเห็นต่อนโยบาย กฎหมายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเหตุนี้เพื่อเป็นการพัฒนาช่อง
ทางการสื่อสารของรัฐสภาไทยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นนั้น จ าเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการศึกษาถึงช่องทางการ
สื่อสารของรัฐสภาต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นแนวทางการในการพัฒนาช่องทางการสื่อสารของรัฐสภาไทยให้มี
ประสิทธิภาพ และเพื่อเป็นการสนับสนุนส่งเสริมประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมให้ประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยเช่นกัน
4.1 รัฐสภาแบบเปิด (Open parliament)
ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ประชาชนเป็นผู้มีบทบาทส าคัญเป็นอย่างมากจึงจ าเป็นอย่างยิ่งที่
ประชาชนต้องมีความตระหนักรู้ถึงสิทธิหน้าที่และเสรีภาพในการแสดงออกและการเข้าไปมีส่วนร่วมในภาค
ส่วนต่าง ๆ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ในหมวด 3 เรื่องสิทธิและเสรีภาพของ
ปวงชนชาวไทย ได้ก าหนดให้มีช่องทางและโอกาสในการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน เช่น การให้
ประชาชนสามารถเข้าถึงและสามารถขอรับฟังข้อมูลจากหน่วยงานรัฐ ประชาชนสามารถเข้าชื่อตรวจสอบ
การท างานของรัฐ และสามารถถอดถอนสมาชิกรัฐสภา ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสมาชิก
วุฒิสภา ประชาชนมีสิทธิในการเสนอร่างกฎหมาย ประชาชนมีสิทธิในการลงประชามติเห็นชอบหรือไม่
เห็นชอบต่อนโยบายหรือการบริหารงานของภาครัฐได้ ซึ่งรัฐสภาในฐานะเป็นองค์กรนิติบัญญัติจึงจ าเป็นต้องให้
ความส าคัญต่อการเสริมสร้างความเข้มแข็งและสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน แต่ทว่ายังมีข้อจ ากัดหลาย
ประการของกลไกรัฐที่ไม่เอื้อให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองหรือร่วมตัดสินใจในนโยบายได้อย่าง
69
เต็มที่ ดังนั้นจึงจ าเป็นต้องมีการพัฒนาส่งเสริมให้เกิดการสื่อสารระหว่างรัฐสภาและประชาชนให้มากขึ้นผ่าน
ช่องทางการสื่อสารที่รัฐสภาสร้างขึ้นมา
69 สุวิจักขณ์ นาควัชระชัย, “บทบาทของรัฐสภาในการเสริมสร้างประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน,” น.
163 -173.
64