Page 25 - kpiebook66025
P. 25
25
โดยมีพรรคการเมืองเข้าร่วมการเลือกตั้งครั้งแรกของประเทศกว่า 28 พรรค
เพื่อต้องการเข้าไปท�าหน้าที่บริหารประเทศในรัฐสภา ส�าหรับการเลือกตั้งครั้งแรก
ของสาธารณรัฐอินโดนีเซียถือว่าค่อนข้างประสบความส�าเร็จ มีความเป็นประชาธิปไตย
ประชาชนใช้สิทธิ์ได้อย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากปัญหาภายในที่เกิดจากกระบวนการ
สร้างชาติ ท�าให้อินโดนีเซียต้องประสบกับความไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง
อีกทั้งต้องเผชิญภัยคุกคามทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ ในปี 1958 สุการ์โน
ได้เปลี่ยนรูปแบบการปกครองเป็นแบบอ�านาจนิยมโดยนิยามให้เป็นระบอบประชาธิปไตย
แบบชี้น�า (Guided Democracy) เนื่องจากสุการ์โนต่อต้านอ�านาจตะวันตก และ
สนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์อินโดนีเซีย (Partai Komunis Indonesia หรือ PKI)
พร้อมทั้งการขยายอ�านาจฝ่ายบริหารไปในด้านต่าง ๆ มากขึ้น ลดความส�าคัญของผู้แทน
ที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน เปิดโอกาสให้กองทัพและกลุ่มการเมืองมุสลิม
เข้ามามีอ�านาจมากขึ้น ปฏิเสธการกระจายอ�านาจจากศูนย์กลางไปสู่ท้องถิ่น และ
ให้อ�านาจประธานาธิบดีสามารถแต่งตั้งสมาชิกของฝ่ายนิติบัญญัติ จากสถานการณ์
ดังกล่าวนั้น สร้างความไม่พอใจแก่ประชาชนและชนชั้นน�าบางกลุ่ม จนน�าไปสู่
การรัฐประหารโดยนายพลสุฮาร์โต (Suharto) ในปี 1965 ภายใต้เหตุการณ์เกสตาปู
3
(Gestapu) เพื่อเข้าควบคุมสถานการณ์ความวุ่นวายและน�าไปสู่การกวาดล้างสมาชิก
พรรคคอมมิวนิสต์
ประธานาธิบดีสุฮาร์โตได้น�าอินโดนีเซียเข้าสู่ยุคระเบียบใหม่ (Orde baru)
โดยมีการจัดโครงสร้างระบบการเมืองแบบใหม่ เร่งการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ
โดยการเปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศ ทว่าในทางตรงกันข้ามการเมืองแบบประชาธิปไตย
ของอินโดนีเซียกลับเริ่มเสื่อมลง รัฐมีความพยายามควบคุมทางการเมืองและสังคม
3 ขบวนการ 30 กันยายน หรือ G30S มีชื่อเรียกในภาษาอินโดนีเซียว่า “เกสตาปู (Gestapu)”
ใช้เรียกเหตุการณ์รัฐประหารล้มเหลวในวันที่ 30 กันยายน 1965 เป็นเหตุการณ์ที่มีกองก�าลัง
จับตัวนายทหารชั้นผู้ใหญ่และได้ประกาศว่าต้องการจะท�าการปฏิวัติโดยการจัดตั้งสภาปฏิวัติขึ้น
และระบุว่าพรรคคอมมิวนิสต์อินโดนีเซีย (Partai Komunis Indonesia : PKI) เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
การก่อกบฏในครั้งนี้ ซึ่งมีความพยายามในการโค่นล้มรัฐบาลของสุการ์โน และต้องการเปลี่ยนเป็น
ระบอบคอมมิวนิสต์ แต่ล้มเหลวและเป็นผลให้นายพลสุฮาร์โตท�าการยึดอ�านาจและครองอ�านาจ
ยาวนานกว่า 32 ปี