Page 112 - kpiebook66025
P. 112
112 การรวมกลุ่มในรัฐสภาเพื่อกิจกรรมทางการเมืองของรัฐสภาอินโดนิเซีย
4.3 บทบาทและอิทธิพลของกลุ่มการเมืองในการเสนอ
ร่างกฎหมาย
กลุ่มการเมืองในรัฐสภาในฐานะตัวแทนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีผลต่อ
กระบวนการตัดสินใจเกี่ยวกับการเสนอร่างกฎหมาย ในรัฐสภาอินโดนีเซียเป็นที่ทราบกันดี
แล้วว่ากลุ่มทางการเมืองท�าหน้าที่เป็นแขนขาของพรรคการเมือง ท�าหน้าที่ในการควบคุม
การลงประชามติของสมาชิกในรัฐสภา โดยเป็นสมาชิกที่ได้รับการเลือกตั้งทั่วไป
จากทั้งส่วนกลางและภูมิภาค เป็นตัวแทนของพรรคการเมือง หากตัวแทนของ
พรรคการเมืองใดชนะการเลือกตั้งเข้าไปในรัฐสภาจ�านวนมาก โอกาสในการก่อตั้ง
กลุ่มทางการเมืองในรัฐสภาของตนเองก็มีมากขึ้นและสามารถเป็นผู้ควบคุมคะแนนเสียง
การลงประชามติในการรับร่างกฎหมายหรือนโยบายต่าง ๆ ที่เสนอโดยฝ่ายบริหาร
หรือฝ่ายอื่น ๆ ในรัฐสภา จากการศึกษาพบว่าการท�าหน้าที่ของกลุ่มทางการเมืองในรัฐสภา
ถือว่าค่อนข้างมีคุณภาพทั้งประเด็นทางสังคมและประเด็นทางกฎหมาย เช่น กฎหมาย
เกี่ยวกับภาคประชาสังคม ที่ถูกวิจารณ์ค่อนข้างเยอะจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ที่ไม่เห็นด้วยรวมไปถึงกลุ่มภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน จนกลายเป็นประเด็น
สาธารณะที่ต้องมีการตรวจสอบและค้นหาข้อเท็จจริงซึ่งมีหลายกลุ่มการเมืองในรัฐสภา
ให้ความสนใจ ส�าหรับบทบาทและอ�านาจหน้าที่ของของกลุ่มการเมืองในรัฐสภา
ในด้านการเสนอร่างกฎหมายมีกรณีตัวอย่างที่เกิดขึ้น ดังนี้
1) กฎหมำยต่อต้ำนภำพโป๊เปลือย (Undang - Undang Nomor 44 Tahun
2008 tentang Pornografi : UU No. 44 Tahun 2008) ช่วงปี 1999 – 2004
มีการน�าเสนอและขั้นตอนการพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้ โดยร่างกฎหมายไม่ได้
ผ่านการปรึกษาหารือหรือการท�าประชาพิจารณ์ขอความเห็นจากประชาชน จนกระทั่ง
ปี 2005 ตัวแทนของกลุ่มการเมืองอย่าง PDIP และ PDS พยายามต่อต้านและไม่เห็นด้วย
กับกฎหมายฉบับกล่าว เพราะมองว่าขัดกับจารีตประเพณีอันดีงามของสังคมอินโดนีเซีย
อีกทั้งค�านิยามและค�าจ�ากัดความเกี่ยวกับภาพโป้เปลือยในร่างกฎหมายก็ไม่ชัดเจน
จนท�าให้เกิดการตีความที่หลากหลายซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาในอนาคตได้ โดยกลุ่ม
ทางการเมืองอย่าง PDS ได้รวบรวมความคิดเห็นจากหลายท้องถิ่นและหลายองค์กร
รวมถึงองค์กรเกี่ยวกับผู้หญิงเพื่อต่อต้านกฎหมายดังกล่าว ซึ่งให้เหตุผลว่าสถานะของ