Page 127 - kpiebook66022
P. 127

การประเมินผลการดำาเนินงานของรัฐสภา
                                                  โดยใช้เกณฑ์และตัวชี้วัดของ Inter-Parliamentary Union (IPU)

            เผยแพร่ข้อมูลของรัฐสภา และกรรมาธิการ (T4) มีค่าเฉลี่ย2.71 โอกาสและความสะดวกของประชาชน
            ในการเสนอความคิดเห็น ปัญหา ร้องทุกข์กับผู้แทนและกรรมาธิการโดยตรง (T5) มีค่าเฉลี่ย 2.83 และ
                                                                            ่
            การดึงดูดให้เยาวชนสนใจงานของรัฐสภา (T8) มีค่าเฉลี่ย 2.77 โดยมี 2 ด้านที่ได้ระดับ “ตำา” คือ โอกาส
            ในการมีส่วนร่วมเสนอข้อมูลและความคิดเห็นในการพัฒนาและแก้ไขกฎหมาย (T6) มีค่าเฉลี่ย 2.00
            ความโปร่งใสและปลอดอิทธิพลของนักธุรกิจและกลุ่มผลประโยชน์ (T7) มีค่าเฉลี่ย 2.00
                      2.  กลุ่มตัวอย่างที่เป็นข้าราชการ อดีตข้าราชการ และเจ้าหน้าที่องค์กรอิสระ

                         พบว่าในภาพรวมมีผลการประเมินด้านความโปร่งใสและการเข้าถึงได้ของรัฐสภา
            ในระดับ “ปานกลาง” โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.83 ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาในรายละเอียดทั้ง 8 ด้านแล้ว พบว่า
            มี 4 ด้านที่มีผลการประเมินรัฐสภาด้านความโปร่งใสและการเข้าถึงได้ของรัฐสภาอยู่ในระดับ “สูง” ได้แก่
            การเปิดเผยข้อมูลผลการประชุมของรัฐสภา และคณะกรรมาธิการต่อสื่อสาธารณะ (T1) มีค่าเฉลี่ย 3.50
            การมีเสรีภาพของสื่อในการเข้าถึงและนำาเสนอข่าวเกี่ยวกับการดำาเนินงานของรัฐสภา และสมาชิกรัฐสภา
            (T2) มีค่าเฉลี่ย 3.29 การมีช่องทาง ความถี่ และความครอบคลุมของการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการ
            ดำาเนินงานของรัฐสภาและกรรมาธิการ (T3) มีค่าเฉลี่ย 3.05 และรูปแบบ วิธีการ และภาษาที่ใช้ในการ
            เผยแพร่ข้อมูลของรัฐสภา และกรรมาธิการ (T4) มีค่าเฉลี่ย 3.14 และมี 4 ด้านที่มีผลการประเมินรัฐสภา
            ด้านความโปร่งใสและการเข้าถึงได้ของรัฐสภาอยู่ในระดับ “ปานกลาง” ได้แก่ โอกาสและความสะดวกของ

            ประชาชนในการเสนอความคิดเห็น ปัญหา ร้องทุกข์กับผู้แทนและกรรมาธิการโดยตรง (T5) มีค่าเฉลี่ย
            2.58 โอกาสในการมีส่วนร่วมเสนอข้อมูลและความคิดเห็นในการพัฒนาและแก้ไขกฎหมาย (T6) มีค่าเฉลี่ย
            2.42 ความโปร่งใสและปลอดอิทธิพลของนักธุรกิจและกลุ่มผลประโยชน์ (T7) มีค่าเฉลี่ย 2.18 และ
            การดึงดูดให้เยาวชนสนใจงานของรัฐสภา (T8) มีค่าเฉลี่ย 2.19
                      3.  กลุ่มตัวอย่างที่เป็นนักวิชาการและสื่อมวลชน
                         พบว่าในภาพรวมมีผลการประเมินด้านความโปร่งใสและการเข้าถึงได้ของรัฐสภา
            ในระดับ “สูง” โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.01 ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาในรายละเอียดทั้ง 8 ด้านแล้ว พบว่ามี 4 ด้าน

            ที่มีผลการประเมินรัฐสภาด้านความโปร่งใสและการเข้าถึงได้ของรัฐสภาอยู่ในระดับ “สูง” ได้แก่ การเปิดเผย
            ข้อมูลผลการประชุมของรัฐสภา และคณะกรรมาธิการต่อสื่อสาธารณะ (T1) มีค่าเฉลี่ย 3.70 การมีเสรีภาพ
            ของสื่อในการเข้าถึงและนำาเสนอข่าวเกี่ยวกับการดำาเนินงานของรัฐสภา และสมาชิกรัฐสภา (T2) มีค่าเฉลี่ย
            3.58, การมีช่องทาง ความถี่ และความครอบคลุมของการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการดำาเนินงานของ
            รัฐสภาและกรรมาธิการ (T3) มีค่าเฉลี่ย 3.05 และรูปแบบ วิธีการ และภาษาที่ใช้ในการเผยแพร่ข้อมูล
            ของรัฐสภา และกรรมาธิการ (T4) มีค่าเฉลี่ย 3.22 และมี 4 ด้านที่มีผลการประเมินรัฐสภาด้านความโปร่งใส
            และการเข้าถึงได้ของรัฐสภาอยู่ในระดับ “ปานกลาง” ได้แก่ โอกาสและความสะดวกของประชาชน
            ในการเสนอความคิดเห็น ปัญหา ร้องทุกข์กับผู้แทนและกรรมาธิการโดยตรง (T5) มีค่าเฉลี่ย 2.87 โอกาส
            ในการมีส่วนร่วมเสนอข้อมูลและความคิดเห็นในการพัฒนาและแก้ไขกฎหมาย (T6) มีค่าเฉลี่ย 2.36

            ความโปร่งใสและปลอดอิทธิพลของนักธุรกิจและกลุ่มผลประโยชน์ (T7) มีค่าเฉลี่ย2.38 และการดึงดูด
            ให้เยาวชนสนใจงานของรัฐสภา (T8) มีค่าเฉลี่ย 2.31


                                                                                  113
   122   123   124   125   126   127   128   129   130   131   132