Page 125 - kpiebook66022
P. 125
การประเมินผลการดำาเนินงานของรัฐสภา
โดยใช้เกณฑ์และตัวชี้วัดของ Inter-Parliamentary Union (IPU)
การดึงดูดให้เยาวชนสนใจงานของรัฐสภา (T8) มีค่าเฉลี่ย 2.25 และมีอยู่ 2 ด้านที่มีผลการประเมินรัฐสภา
่
ด้านความโปร่งใสและการเข้าถึงได้ของรัฐสภาอยู่ในระดับ “ตำา” ได้แก่ โอกาสในการมีส่วนร่วมเสนอข้อมูล
และความคิดเห็นในการพัฒนาและแก้ไขกฎหมาย (T6) มีค่าเฉลี่ย 1.78 และความโปร่งใสและปลอดอิทธิพล
ของนักธุรกิจและกลุ่มผลประโยชน์ (T7) มีค่าเฉลี่ย 1.93
2. กลุ่มตัวอย่างที่สำาเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี
พบว่าในภาพรวมมีผลการประเมินด้านความโปร่งใสและการเข้าถึงได้ของรัฐสภา
ในระดับ “ปานกลาง” โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.68 ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาในรายละเอียดทั้ง 8 ด้านแล้ว พบว่า
มี 1 ด้านที่มีผลการประเมินรัฐสภาด้านความโปร่งใสและการเข้าถึงได้ของรัฐสภาอยู่ในระดับ “สูงมาก” คือ
การเปิดเผยข้อมูลผลการประชุมของรัฐสภา และคณะกรรมาธิการต่อสื่อสาธารณะ (T1) มีค่าเฉลี่ย 4.06
มี 1 ด้านที่มีผลการประเมินรัฐสภาด้านความโปร่งใสและการเข้าถึงได้ของรัฐสภาอยู่ในระดับ “สูง” คือ
การมีเสรีภาพของสื่อในการเข้าถึงและนำาเสนอข่าวเกี่ยวกับการดำาเนินงานของรัฐสภา และสมาชิกรัฐสภา
(T2) มีค่าเฉลี่ย 3.18 โดยมี 4 ด้าน ที่มีผลการประเมินรัฐสภาด้านความโปร่งใสและการเข้าถึงได้ของรัฐสภา
อยู่ในระดับ “ปานกลาง” ได้แก่ การมีช่องทาง ความถี่ และความครอบคลุมของการเผยแพร่ข้อมูล
เกี่ยวกับการดำาเนินงานของรัฐสภาและกรรมาธิการ (T3) มีค่าเฉลี่ย 2.75 รูปแบบ วิธีการ และภาษา
ที่ใช้ในการเผยแพร่ข้อมูลของรัฐสภา และกรรมาธิการ (T4) มีค่าเฉลี่ย 2.66 โอกาสและความสะดวก
ของประชาชนในการเสนอความคิดเห็น ปัญหา ร้องทุกข์กับผู้แทนและกรรมาธิการโดยตรง (T5) มีค่าเฉลี่ย
2.29 การดึงดูดให้เยาวชนสนใจงานของรัฐสภา (T8) มีค่าเฉลี่ย 2.48 และมี 2 ด้านที่มีผลการประเมิน
่
รัฐสภาด้านความโปร่งใสและการเข้าถึงได้ของรัฐสภาอยู่ในระดับ “ตำา” คือ โอกาสในการมีส่วนร่วม
เสนอข้อมูลและความคิดเห็นในการพัฒนาและแก้ไขกฎหมาย (T6) มีค่าเฉลี่ย 1.90 และ ความโปร่งใส
และปลอดอิทธิพลของนักธุรกิจและกลุ่มผลประโยชน์ (T7) มีค่าเฉลี่ย 2.00
3. กลุ่มตัวอย่างที่สำาเร็จการศึกษาสูงกว่าระดับปริญญาตรี
พบว่าในภาพรวมมีผลการประเมินด้านความโปร่งใสและการเข้าถึงได้ของรัฐสภา
ในระดับ “ปานกลาง” โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.72 ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาในรายละเอียดทั้ง 8 ด้านแล้ว พบว่า
มี 4 ด้านที่มีผลการประเมินรัฐสภาด้านความโปร่งใสและการเข้าถึงได้ของรัฐสภาอยู่ในระดับ “สูง” ได้แก่
การเปิดเผยข้อมูลผลการประชุมของรัฐสภา และคณะกรรมาธิการต่อสื่อสาธารณะ (T1) มีค่าเฉลี่ย 3.49
การมีเสรีภาพของสื่อในการเข้าถึงและนำาเสนอข่าวเกี่ยวกับการดำาเนินงานของรัฐสภา และสมาชิกรัฐสภา
(T2) มีค่าเฉลี่ย 3.51 การมีช่องทาง ความถี่ และความครอบคลุมของการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับ
การดำาเนินงานของรัฐสภาและกรรมาธิการ (T3) มีค่าเฉลี่ย 3.06 และรูปแบบ วิธีการ และภาษาที่ใช้ในการ
เผยแพร่ข้อมูลของรัฐสภา และกรรมาธิการ (T4) มีค่าเฉลี่ย 3.13 และมี 4 ด้านที่มีผลการประเมินรัฐสภา
ด้านความโปร่งใสและการเข้าถึงได้ของรัฐสภาอยู่ในระดับ “ปานกลาง” ได้แก่ โอกาสและความสะดวก
ของประชาชนในการเสนอความคิดเห็น ปัญหา ร้องทุกข์กับผู้แทนและกรรมาธิการโดยตรง (T5) มีค่าเฉลี่ย
2.75 โอกาสในการมีส่วนร่วมเสนอข้อมูลและความคิดเห็นในการพัฒนาและแก้ไขกฎหมาย (T6) มีค่าเฉลี่ย
2.23 ความโปร่งใสและปลอดอิทธิพลของนักธุรกิจและกลุ่มผลประโยชน์ (T7) มีค่าเฉลี่ย 2.37 และ
การดึงดูดให้เยาวชนสนใจงานของรัฐสภา (T8) มีค่าเฉลี่ย 2.32
111