Page 356 - kpiebook65072
P. 356
355
ในประเด็นนี้ จะเห็นได้ว่ามีเพียงสวิตเซอร์แลนด์เท่านั้นที่มีการกำาหนด
ฐานความผิด “การกระทำาให้บุคคลสูญหาย” ไว้เป็นการเฉพาะ และเป็นการ
ดำาเนินการในรูปแบบการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา ในขณะที่รัฐภาคี
อื่นจะใช้วิธีการอ้างอิงฐานความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องกับการจำากัดเสรีภาพของบุคคล
สำาหรับประเทศไทย ประมวลกฎหมายอาญาไม่กำาหนดฐานความผิด
“การกระทำาให้บุคคลสูญหาย” เป็นการเฉพาะ แต่มีบทบัญญัติที่ใกล้เคียงเรื่องนี้
ซึ่งเกี่ยวกับความผิดต่อเสรีภาพ ได้แก่ ความผิดฐานหน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง และ
ความผิดฐานเรียกค่าไถ่ ดังนี้
1. กรณีความผิดฐานหน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 310 วางหลักว่า ผู้ใดหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำาด้วย
690
ประการใดให้ผู้อื่น ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ต้องระวางโทษจำาคุกไม่เกิน
3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำาทั้งปรับ โดยแต่ละการกระทำา
มีลักษณะ ดังนี้
ก. กรณีการหน่วงเหนี่ยว ศาสตราจารย์ ดร.คณพล จันทน์หอม
อธิบายว่า “หน่วงเหนี่ยว” หมายถึง การจำากัดเสรีภาพในลักษณะ
ที่ “รั้งตัวไว้ ดึงถ่วงไว้ กักไว้” ทำาให้ผู้เสียหายไม่อาจเคลื่อนไหว
ร่างกายได้โดยอิสระ เช่น ดึงแขนไว้ไม่ให้เดินเข้าไป อันเป็น
691
ความหมายตามรูปศัพท์จากพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน
นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ ดร.ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ และ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.รณกรณ์ บุญมี อธิบายว่าสามารถหมายถึง
การจำากัดเสรีภาพไม่ให้บุคคลเข้าไปยังที่ที่บุคคลนั้นมีสิทธิ
จะเข้าไปได้ เช่น การปิดกั้นมิให้ผู้เช่าเข้าไปยังห้องเช่า
692
690 Supra Note 671, ประมวลกฎหมายอาญา, มาตรา 310.
691 Supra Note 674, หน้า 174.
692 ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ และ รณกรณ์ บุญมี, ค�าอธิบายกฎหมายอาญา ภาคความผิด
และลหุโทษ, สำานักพิมพ์วิญญูชน (2564), หน้า 291.
inside_ .indd 355 14/9/2565 11:15:10