Page 181 - kpiebook65071
P. 181
180 บทบัญญัติทางกฎหมายว่าด้วยสิทธิที่จะถูกลืม (Right to be Forgotten)
และแนวทางแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
HK PDPO 1996 ของฮ่องกง ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล “จะต้องท�าการใด ๆ
ที่ส่งผลในทางปฏิบัติเพื่อลบข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งไม่มีความจ�าเป็นจะต้องใช้
274
ตามวัตถุประสงค์อีกต่อไป” และตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ของสิงคโปร์ ตามมาตรา 25 ของ SG PDPA 2012 กำาหนดให้ผู้ควบคุม
ข้อมูลส่วนบุคคล “จ�าต้องยุติการเก็บรักษาเอกสารที่มีข้อมูลส่วนบุคคล
หรือก�าจัดวัตถุใด ๆ ที่มีข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับปัจเจกบุคคลใด ๆ
รวมอยู่” ทำาให้อาจพิจารณาได้ว่า การลบข้อมูลส่วนบุคคลอาจเกิดขึ้นได้
275
โดยไม่จำาต้องรอให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลร้องขอ อีกทั้งในมาตรา 11
ของ TW PDPA 2015 ของไต้หวัน ได้กำาหนดให้องค์ภาครัฐและองค์กร
ที่มิได้เป็นหน่วยงานของรัฐสามารถพิจารณาลบข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ ได้เอง
276
หากเห็นควรให้มีการลบได้ตามที่กฎหมายกำาหนด โดยไม่จำาต้องรอให้
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลร้องขอ อีกทั้งในหลักการความเป็นส่วนตัวออสเตรเลีย
ในข้อที่ 11.2 ได้ระบุในทำานองเดียวกัน “ต้องด�าเนินขั้นตอนที่เหมาะสม
ตามแต่ละกรณี เพื่อท�าลายข้อมูลหรือท�าให้มั่นใจว่าข้อมูลได้ถูกท�าให้
เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้” 277
ด้วยเหตุนี้ จึงสามารถกล่าวได้ว่ามาตรา 33 ประกอบมาตรา 37 (3)
ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีความครอบคลุมถึง
การคุ้มครองตามแนวทางของกฎหมายในต่างประเทศ ทั้งในมิติที่รับรองสิทธิ
ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการ “ร้องขอ” และในมิติของการกำาหนดให้
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล “ดำาเนินการ” ลบหรือทำาลายข้อมูลโดยปราศจาก
การร้องขอ
274 Personal Data (Privacy) Ordinance (1996), Section 26 (1).
275 Singapore PDPA 2012, Section 25.
276 TW PDPA 2015, Section 11 para 3.
277 AUS PA 1988 & APPI ข้อ 11.2.