Page 165 - kpiebook65071
P. 165
164 บทบัญญัติทางกฎหมายว่าด้วยสิทธิที่จะถูกลืม (Right to be Forgotten)
และแนวทางแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
บทสรุป
การศึกษาตัวบทกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมาย
ลำาดับรอง แนวปฏิบัติ คำาวินิจฉัย และคำาพิพากษาของศาลทั้งในประเทศไทย
และต่างประเทศดังที่กล่าวในหัวข้อ 3.1 ถึง 3.9 ในบทที่ 3 นี้แสดงให้เห็นถึง
สาระสำาคัญของกฎหมายซึ่งมีภารกิจในการคุ้มครองสิทธิที่จะถูกลืมอยู่
สี่ประการ ได้แก่ (1) การกำาหนดตัวผู้ทรงสิทธิ (2) การกำาหนดผู้มีหน้าที่
คุ้มครองสิทธิ (3) การกำาหนดเนื้อหาของสิทธิที่จะถูกลืม และ (4) การกำาหนด
ข้อจำากัดของสิทธิที่จะถูกลืม
ประการแรก กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลระบุถึงตัวผู้ทรงสิทธิ
กล่าวคือตอบคำาถามที่ว่า “ใคร” เป็นผู้ทรงสิทธิที่จะสามารถเรียกร้องให้มีการลบ
ทำาลาย หรือทำาให้ข้อมูลส่วนบุคคลกลายเป็นข้อมูลที่ไม่อาจระบุตัวตนได้
กฎหมายของทุกประเทศระบุว่าผู้ทรงสิทธิได้แก่ “เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล”
โดยมีข้อสังเกตว่าสิทธิดังกล่าวถูกบัญญัติให้ตัวเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิ
“เรียกร้อง” ให้มีการลบ ทำาลาย หรือทำาให้ข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีเพียงมาตรา 17
ของ GDPR เท่านั้นที่บัญญัติเจาะจงถึง “สิทธิที่จะถูกลืม (Right to be Forgotten)”
ส่วนกฎหมายของประเทศอื่น ๆ (รวมถึงของประเทศไทย) ไม่ได้เรียกสิทธิ
ในการขอให้มีลบข้อมูลว่า “สิทธิที่จะถูกลืม”
ประการที่สอง กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลระบุถึงผู้มีหน้าที่
ดำาเนินการลบ ทำาลาย หรือทำาให้ข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งไม่ได้ถูกเรียกว่าผู้ควบคุม
ข้อมูลส่วนบุคคลในทุก ๆ กรณี กฎหมายของประเทศไทย GDPR UK DPA PH
DPA 2012 กำาหนดหน้าที่ลบข้อมูลตามคำาขอแก่ “ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล”
ในขณะที่ AUS PA 2018 ระบุถึงหน้าที่ผู้รายงานด้านเครดิต ส่วน JAP APPI
2020 กำาหนดหน้าที่ให้แก่ผู้ใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Information
Handling Business Operator) TW PDPA 2015 กำาหนดหน้าที่ให้แก่