Page 392 - kpiebook65063
        P. 392
     ทั้งหมด ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง อ้อย และไม้ผล ประชากรในพื้นที่
               เลี้ยงสัตว์ในครัวเรือนเป็นอาชีพหลักและอาชีพเสริม เช่น การเลี้ยงสุกร วัว ควาย เป็ด ไก่ ดังนั้น
               อาชีพ เลี้ยงสัตว์และทำการประมง และในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลท่าคันโทมีโรงงานอุตสาหกรรม
               ขนาดใหญ่และขนาดย่อย ทำให้เกิดการจ้างงานคนในพื้นที่ แรงงานในโรงงานอุตสาหกรรม
               ผลิตแป้งมันสำปะหลัง โรงงานสีข้าวและโรงงานน้ำดื่ม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ตำบลท่าคันโท
                     อาชีพส่วนใหญ่ในเขตเทศบาลท่าคันโทต้องใช้น้ำในการทำการเกษตรและอุปโภคบริโภค
               ประมาณ 730,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี รวมทั้ง โรงงานอุตสาหกรรมสูบน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ     ท้องถิ่นกับภารกิจที่ท้าทายหลังวิกฤตโควิด-19
               เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมทุกวัน แต่อ่างเก็บน้ำมีพื้นที่ 600 ไร่ เก็บน้ำได้เพียง 2,440,000 ลูกบาศก์เมตร
               จึงไม่เพียงพอต่อจำนวนการใช้น้ำ ประชาชนจึงร้องเรียนปัญหาเรื่องน้ำ เช่น น้ำไม่พอต่อการอุปโภค
               บริโภค น้ำมีสีขุ่น เทศบาลตำบลท่าคันโทได้รับฟังปัญหา และข้อเสนอแนะของประชาชนในพื้นที่
               ซึ่งปัญหาเรื่องน้ำถือเป็นปัญหาที่สำคัญอันดับแรก ที่ต้องแก้ไข เนื่องจากประชาชนในพื้นที่
               ประกอบอาชีพเกษตรกรเป็นส่วนใหญ่ จึงต้องเร่งแก้ไขน้ำไม่เพียงพอต่อการอุปโภค บริโภค
               การเกษตร และการอุตสาหกรรม และปัญหาน้ำประปาไม่สะอาดไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้นเทศบาล
               ตำบลท่าคันโท จึงเป็นองค์กรที่ริเริ่มเริ่มในการรับฟังปัญหาและดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำ
               โดยมีกระบวนการ เครื่องมือ และกลุ่มภาคีเครือข่ายในการขับเคลื่อนนวัตกรรมทั้งหมด
               14 หน่วยงาน
                           “ส่วนปัญหาคือการร้องเรียนในส่วนของการใช้น้ำ ปริมาณน้ำไม่พอ หรือ
                     น้ำดิบ ความขุ่นของน้ำกลิ่นของน้ำ กลิ่นเหม็นเน่า กลิ่นสารเคมี ส่วนของผู้ใช้น้ำ
                     ประชากรทางเทศบาลท่าคันโทมีอยู่โดยประมาณ 9 พันคน คิดเป็น 200 ลิตร/คน/วัน
                     เท่ากับ 1,800 ลูกบาศก์เมตร/วัน แต่กำลังการผลิตน้ำจะได้ประมาณ 3,360
                     ลูกบาศก์เมตร/วัน จะมีส่วนต่างในการใช้ดับเพลิงบ้าง รดน้ำต้นไม้ และสนามกีฬา”
                     (เจ้าหน้าที่กองประปา, สัมภาษณ์, 4 มีนาคม 2565)                                   ส่วนที่   ภารกิจที่ท้าทายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลังวิกฤตโควิด-19
                     เพื่อให้ประชาชนมีน้ำใช้อุปโภคบริโภค ทำการเกษตร การพาณิชย์กรรม และใช้ใน
               อุตสาหกรรมอย่างเพียงพอตลอดทั้งปี และเพื่อพัฒนาระบบบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ
               มีมาตรฐาน มีความต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม เพื่อให้ผู้ใช้น้ำได้ใช้น้ำประปาที่เพียงพอต่อ
               ความต้องการ สะอาด ปลอดภัย ตลอด 24 ชั่วโมง  อีกทั้งยังเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน
               ให้ตระหนักถึงการดูแลรักษาแหล่งน้ำ และใช้น้ำอย่างคุ้มค่า และยังมีการตรวจน้ำอย่างสม่ำเสมอ
               ทำให้น้ำอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ทำให้เห็นถึงความร่วมมือขององค์กรและประชาชน
                                                                              สถาบันพระปกเกล้า     1
     	
